Blog

  • “แพทริเซีย” คลอดลูกชายแล้ว “โน้ต วิเศษ” ตื่นเต้นมาก เป็นคุณพ่อลูกสองเต็มตัว

    เป็นคุณแม่ลูกสองอย่างเต็มตัวแล้ว สำหรับนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด หลังจากได้อุ้มท้องมาเป็นระยะเวลา 9 เดือนเต็ม ล่าสุดในวันนี้ (23 ม.ค.) ก็ได้ถือฤกษ์ดีคลอดลูกชายคนที่ 2 ออกมาลืมตาดูโลกกว้าง

    ล่าสุด โน้ต วิเศษ ก็ได้เช็กอินที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งโพสต์ภาพคู่กับภรรยา แพทริเซีย เขียนแคปชั่นสั้นๆ ไว้ว่า “No. 2”

    ซึ่งทางด้าน แพทริเซีย เข้ามาตอบกลับสามีทันที “Pappaaaaa” และปิดท้ายด้วยอีโมจิรูปหัวใจ

    งานนี้แฟนๆ ต่างก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกันยกใหญ่ อีกทั้งยังปูเสื่อรอชมโฉมหน้าลูกชายของ แพทริเซีย-โน้ต เชื่อเลยว่าต้องน่ารักน่าฟัดมากแน่ๆ เลยจ้า

  • “กอล์ฟ พิชญะ” เปิดหน้าแฟนใหม่สวยมาก ทริปหวานกลางทุ่งดอกไม้

    ชัดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ กับความรักครั้งใหม่ และสาวสวยที่ชื่อ หยิน-ฝันดาว แบ้สกุล ดีไซน์เนอร์ไทย เจ้าของแบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังลิมิตเลส “FUNDAO” 

    อย่างโพสต์ล่าสุดที่ต้องบอกว่าถึงกับสะดุดและต้องหยุดดูโมเมนต์ของคู่นี้ เพราะต่างก็แท็กชื่อกันไปมาชัดเจน และชัดเจนยิ่งกว่าก็คือความหวานของ กอล์ฟ พิชญะ กับแฟนใหม่คนปัจจุบัน กับโมเมนต์หวานท่ามกลางสวนดอกไฮเดรนเยีย

    ท่ามกลางวิวสวยๆ และแฟนสาวของ กอล์ฟ พิชญะ ที่มีแต่คนบอกว่าสวยมาก และบางรูปก็ยังหน้าคล้ายกันมากจนคนทักว่าเป็นเนื้อคู่ สวยเก่งครบเครื่อง เหมาะกับหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ มากๆ 

    และยิ่งส่องอินสตาแกรมของฝ่ายหญิง จะเห็นว่ามีโมเมนต์รูปคู่หวานๆ ที่ช่วงนี้ปามาแบบถี่ๆ ให้เห็นกันเลยจ้า

  • เปิดโผ 5 แยกรถติดสาหัสมากที่สุดในกรุงเทพฯ เลี่ยงได้เลี่ยง

    ปัญหารถติดในกรุงเทพมหานครเป็นปัญหาเรื้อรังที่สั่งสมมานาน ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและคมนาคมของประเทศ กรุงเทพฯ กำลังเผชิญกับวิกฤติการจราจรที่มากขึ้นทุกวัน ผลการศึกษาจากศาสตราจารย์ Francesca Gino ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยให้เห็นว่า การใช้เวลาเดินทางบนท้องถนนนานกว่า 38 นาที สามารถส่งผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อนำข้อมูลนี้มาวิเคราะห์ร่วมกับสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ที่ผู้คนต้องใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยมากกว่านั้นหลายเท่า จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นการระบายความคับข้องใจผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง

    บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการสำรวจการกล่าวถึงแยกจราจรในกรุงเทพมหานครที่สร้างปัญหาต่อการเดินทางมากที่สุด ผ่านทางการแสดงความคิดเห็นของชาวโซเชียล ในช่วงวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2567 โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล DXT360 ซึ่งเป็นระบบติดตามและรวบรวมข้อมูลแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งโซเชียลมีเดียและสื่อดั้งเดิม (เว็บไซต์ข่าว โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร) พบ 5 แยกที่มีการร้องเรียนเรื่องรถติดมากที่สุดในกรุงเทพฯ

    แยกอโศก-เพชรบุรี รถติดอันดับ 1

    traffic01

    กรุงเทพมหานครประสบปัญหาการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น จุดที่พบปัญหาการจราจรติดขัดอย่างชัดเจน มักเป็นแยกสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

    1. แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนสายหลักหลายเส้นและมีสัญญาณไฟจราจรหลายจุด ทำให้เกิดการสะสมของปริมาณรถจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นแยกที่ได้รับการร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์สูงที่สุด (41.5%)

    2. ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จึงมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน และเป็นแยกที่ได้รับการร้องเรียนมากเป็นอันดับสอง (18.0%)

    3. แยกพระราม 9 (17.8%) และ 4. แยกสาทร-สุรศักดิ์ (15.9%) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานและสถานศึกษาจำนวนมาก ได้รับการร้องเรียนเป็นอันดับที่สามและสี่ตามลำดับ

    5. แยกประตูน้ำ (6.1%) ซึ่งเป็นศูนย์กลางใจกลางเมืองที่มีห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิงหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนาแน่น และได้รับการร้องเรียนเป็นอันดับสุดท้ายในบรรดาแยกที่มีปัญหามากที่สุด

    สน. งานหนัก เคลียร์จราจร 5 แยกวิกฤติ

    การจัดการจราจรในกรุงเทพมหานคร อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบหลักของกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยมีสถานีตำรวจในแต่ละเขตพื้นที่ ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งทำงานประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ

    ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาการจราจรได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่พบปัญหา โดยแต่ละแยกสำคัญมีสถานีตำรวจที่รับผิดชอบ ดังนี้

    1. แยกอโศก-เพชรบุรี อยู่ในความดูแลของ สน.มักกะสัน
    2. ห้าแยกลาดพร้าว อยู่ในความดูแลของ สน.ลาดพร้าว
    3. แยกพระราม 9 อยู่ในความดูแลของ สน.ห้วยขวาง
    4. แยกสาทร-สุรศักดิ์ อยู่ในความดูแลของ สน.ยานนาวา
    5. แยกประตูน้ำ อยู่ในความดูแลของ สน.พญาไท

    นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาจราจรอย่างยั่งยืนยังต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก สำนักการจราจรและขนส่ง และกรุงเทพมหานคร

    บทบาทของโซเชียลมีเดียในการรายงานสถานการณ์จราจร

    สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ X (Twitter) เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการรับรู้สถานการณ์จราจรในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากสามารถรายงานข้อมูลได้แบบทันที ทำให้ประชาชนรับทราบสภาพการจราจรติดขัดหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทาง และสามารถวางแผนเลือกเส้นทางที่เหมาะสมได้ โดยเพจและแอ็กเคานต์ที่รายงานข้อมูลการจราจรอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน

    traffic02

    เพจ Facebook และแอ็กเคานต์ที่ลงข่าวการจราจรมากที่สุด 5 อันดับแรก

    1. FM91 Trafficpro-สวพ.FM91 (26.6%)
    2. 1197 สายด่วนจราจร (17.3%)
    3. JS100 Radio-จส.100 (15.1%)
    4. ถนนมิตรภาพ-รถติดบอกด้วย (6.6%)
    5. ร่วมด้วยช่วยกัน (4.2%)

    ส่องวิธีแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ

    กรุงเทพมหานครติดอันดับเมืองที่มีปัญหาการจราจรรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยปัจจัยหลายด้านที่ทับซ้อนกัน ทั้งการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ส่วนบุคคล การวางผังเมืองที่ขาดการวางแผนอย่างเป็นระบบ โครงสร้างถนนที่ไม่เอื้ออำนวย และระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งผลให้ชาวกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

    ขณะที่หลายเมืองทั่วโลกก็เผชิญความท้าทายคล้ายกัน แต่หลายแห่งสามารถจัดการปัญหารถติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีม Insight ได้ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ประสบความสำเร็จ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีหลัก คือ

    • ระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport Systems) เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีหลายรูปแบบ เช่น กล้องวงจรปิด และเซ็นเซอร์ตรวจวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสัญญาณไฟจราจร ซึ่งใช้ในหลายเมืองใหญ่ เช่น สิงคโปร์ ลอนดอน และอัมสเตอร์ดัม
    • กลยุทธ์การบริหารความต้องการใช้งาน (Demand Management Strategies) เป็นการออกแบบนโยบายเพื่อควบคุมปริมาณยานพาหนะบนท้องถนน เช่น
      • การจัดช่องทางพิเศษสำหรับรถโดยสารสาธารณะ (Bus Lanes) ในลอนดอน
      • การเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ส่วนตัวเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น
        • ระบบ Electronic Road Pricing ในสิงคโปร์
        • ระบบ Congestion Charge Zone ในลอนดอน ที่เก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการเข้าพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น

    “ร่วมมือกัน” คือ หนทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาจราจร

    การแก้ปัญหาจราจรอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเพียงงบประมาณหรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และที่สำคัญคือ ประชาชนที่ต้องเคารพกฎจราจร ซึ่งจะช่วยให้การจราจรคล่องตัวขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่จะยิ่งทำให้การจราจรติดขัด

     

     

  • ทำความรู้จัก “พี ชานนท์” เจ้าบ่าวของ “แพท ณปภา” เปิดเส้นทางรักอายุห่าง 14 ปี

    ทำความรู้จักกับ พี-ชานนท์ วงศ์งามขำ เจ้าบ่าวป้ายแดง หวานใจของนางเอกสาว แพท ณปภา หลังได้ควงแขนกันเข้าประตูวิวาห์ไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 ม.ค. 2568 ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรัก

    พี ชานนท์ วงศ์งามขำ เกิดวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2543 ปัจจุบันอายุ 24 ปี ย้อนเวลากลับไป พี ชานนท์ บินไปเรียนมัธยมที่ประเทศอังกฤษจนจบการศึกษา จากนั้นเข้าเรียนต่อที่ Bournemouth University ขณะที่ปัจจุบันเจ้าตัวทำธุรกิจส่วนตัว

    ด้านรอยสักที่หลายคนเห็นแล้วต้องซูม พี ชานนท์ เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่รักศิลปะด้านนี้มากๆ มีทั้งภาพและข้อความที่เอาไว้เก็บเรื่องราวต่างๆ อาทิ แขนซ้ายของเขาสักคำว่า “ครอบครัวต้องมาก่อน” เป็นต้น

    เส้นทางรักกับ แพท ณปภา
    พี ชานนท์
    มีอายุน้อยกว่า แพท ณปภา ถึง 14 ปี ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน ชาวเน็ตได้จับตามองประเด็นความรักครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอได้โพสต์รูปลงอินสตาแกรมแล้วติดภาพของหนุ่มพี โดยแพทเปิดเผยว่าเธอไม่ได้เช็กรูปให้ดีก่อน จึงมีภาพหลุดออกไป แม้ฝ่ายชายจะอายุน้อยกว่าถึง 14 ปี แต่ความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นความสัมพันธ์ที่แฮปปี้มาก เพราะฝ่ายชายคอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังการทำงานตลอด เป็นทั้งคนถ่ายงาน ช่วยตัดต่อ ช่วยดูให้ทุกอย่าง ที่สำคัญคือรู้จุดที่ควรจะอยู่ ไม่เคยเรียกร้องว่าต้องพูดถึง ต้องลงรูป หรือต้องให้สถานะ และที่สำคัญเข้ากับลูกชาย น้องเรซซิ่ง ได้ดีมาก ๆ ด้วย

    กระทั่งวันที่ 19 มิถุนายน 2566 แพท ณปภา ก็ยอมใจอ่อนเปิดตัว พี ชานนท์ แฟนหนุ่ม ครั้งแรกในรายการ เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม โดยยอมรับว่าทั้งคู่คบกันมา 1 ปี 4 เดือนแล้ว (ในขณะนั้น) ทั้งนี้ ด้านพิธีกร เจนนิเฟอร์ คิ้ม ได้ถามฝ่ายชายว่า ทำไมต้องอดทน ผู้หญิงรวยกว่านี้ก็มี สวยกว่านี้ก็มี โดยหนุ่มพีก็ได้ตอบว่า “ก็รักอะครับ วันที่พีแย่ เขาก็ซัพพอร์ตช่วยหมด ถ้าถามว่ากลัวไหม ก็กลัวแค่เขาเสียใจเท่านั้นเอง กลัวเขาเหนื่อย” เรียกว่าเป็นคำตอบที่ได้ใจสาวแพทสุด ๆ งานนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงยอมใจอ่อนและเปิดตัวในที่สุด

    แพท-พีแพท-พี

    วันที่ 2 มกราคม 2567 พี พา แพท ณปภา ล่องเรือบนเลคโคโม่ ประเทศอิตาลี และก็คุกเข่าขอแพทแต่งงานเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 16.06 น. ท่ามกลางความสวยงามของภูเขา วิลล่า และน้ำทะเลสีเขียว โดยมอบแหวนกว่า 3 กะรัต ให้แพทเป็นของขวัญแทนใจ ซึ่ง แพท เผยว่า พีคือคนที่แพทไว้ใจ และไม่เคยทำให้ร้องไห้ จึงทำให้แพทตัดสินใจยอมลงเอยในที่สุด

    วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 พี ชานนท์ ถูกกล่าวหาว่ามีเอี่ยวธุรกิจเว็บพนันจนรวยและซื้อบ้านหรูได้ ทั้งคู่จึงเดินหน้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมเปิดใจกับสื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีบัญชี TikTok รายหนึ่ง โพสต์คลิปหัวข้อข่าวว่า พี ชานนท์ ทำงานอะไร? ทำไมถึงมีฐานะมากขึ้น โดยกล่าวอ้างว่า พีซื้อบ้านหลังที่ 2 มูลค่า 50 ล้านบาท และยังมีขบวนการหน้าม้าเข้าไปคอมเมนต์เพื่อให้คนหลงเชื่อด้วย

    ซึ่งทั้งสองยืนยันว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน หรือมีรายได้จากเว็บพนันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ พี ชานนท์ ยังได้ชี้แจงว่า ตัวเองทำอาชีพสุจริต โดยทำงานเทรดหุ้นและทองคำในตลาดหุ้นถูกกฎหมาย ซึ่งจดทะเบียนในไทยและสามารถตรวจสอบในตลาดหุ้นไทยได้ และไม่ได้ร่ำรวยขนาดซื้อบ้าน 50 ล้านตามที่ถูกบิดเบือน

    วันที่ 23 มกราคม 2568 พี ชานนท์ ได้ควงแขน แพท ณปภา เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างเรียบง่าย โดยมีครอบครัว เพื่อนพ้องในวงการที่สนิท เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานรักในครั้งนี้อย่างอบอุ่นต่อหัวใจสุดๆ

  • งานแต่ง “แพท ณปภา-พี ชานนท์” สิริมงคลเริ่มชีวิตคู่ งามสง่าในชุดไทย

    แพท ณปภา เจ้าสาวคนสวยเข้าพิธีสมรสกับเจ้าบ่าว พี ชานนท์ ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนสนิทร่วมยินดี

    นักแสดงสาวคนเก่ง แพท ณปภา หลังคบหาดูใจกับแฟนหนุ่มนอกวงการ พี ชานนท์ จากวันนั้นถึงวันนี้ระยะเวลากว่า 3 ปีที่พิสูจน์ถึงความมั่นคงในความรักของกันและกัน ทั้งสองคนจึงตัดสินใจสร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยกัน 

    และวันนี้ (23 ม.ค.) แพท ณปภา และ พี ชานนท์ ได้เข้ารับประทานน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลเริ่มต้นชีวิตคู่ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยมีครอบครัวและเพื่อนสนิท อาทิ บูม สุภาพร, เจน จินดา มาร่วมแสดงความยินดีด้วย 

    นอกจากนี้ยังได้เห็น น้องเรซซิ่ง เคียงข้าง แม่แพท ในวันสำคัญต้องบอกว่าเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจที่สุด 

    ทีมข่าวบันเทิง sanook.com ขอแสดงความยินดีกับ แพท ณปภา และ พี ชานนท์ ด้วยอีกครั้ง 

  • นายห้างอินเดียขอขมา ลูกชายขับเก๋งชนไรเดอร์ดับ ลูกสาวผู้ตายเผยเงินเยียวยาก้อนแรก

    นายห้างอินเดียขอขมา ลูกชายขับเก๋งชนไรเดอร์ดับ เชื่อไม่ได้เจตนา ลูกสาวผู้ตายเผยจำนวนเงินเยียวยาก้อนแรก

    จากกรณี นายเสรี อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้า ขับรถเก๋งไล่ชน  นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี คนขับไรเดอร์เสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท ในพื้นที่แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวแต่ไม่ลงเจรจา

    พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายเสรี 2 ข้อหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใด ๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น 

    จากนั้นเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีได้ควบคุมตัวนายเสรี ส่งฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัว ในขณะควบคุมตัวผู้สื่อข่าวและพยายามสอบถาม ซึ่งผู้ต้องหาไม่ตอบสื่อได้แต่สายหัวก้มหน้า

    ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นฝากขัง นายเสรี อายุ 30 ปี ที่ก่อเหตุขับรถชน นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี คนขับไรเดอร์เสียชีวิต ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 6 แสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ติดกำไล EM

    ภรรยาไรเดอร์ ลั่น คนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่จะสู้ถึงที่สุด

    ด้าน นางสาวสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ถ้าเป็นที่ศาลพิจารณาออกมาแล้ว ตนก็แย้งอะไรไม่ได้ ขนาดตนยื่นค้านประกันไปแล้ว ตนจะไปสู้อะไรได้ ยอมรับว่าตัวเองมีความกังวลใจแน่นอน เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ตนก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าคดีมันจะเปลี่ยนไปหมด เขาได้ประกันตัวออกมาแล้ว คงเดินลอยหน้าลอยตาแล้วป่านนี้

    แต่ถึงอย่างนนั้น ตนจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะไม่มีทนาย ไม่มีเงิน ต้องดิ้นรน แต่เชื่อว่าถ้ามีสื่อช่วยนำเสนอข่าว ก็จะได้รับความยุติธรรม โดยเขาเองมีทุกอย่างที่จะสู้ แต่ถ้ามองเรื่องของความเป็นมนุษย์ เขาทำผิดแล้วสำนึกผิด จะมารดน้ำศพ เราก็จะปล่อยให้เขาเข้ามาได้ แต่ในใจตนไม่ขออโหสิกรรมให้

    หลังจากเกิดเหตุ เบื้องต้น มีเพียงพ่อของเขาที่ประสานเข้ามาช่วยเหลือ ตัวเขาไม่ได้พูดอะไร ขนาดในตอนเช้าที่เห็นตอนอยู่ใน สน. ลุมพินี ก็ยังเดินลอยหน้าลอยตา ตนมองว่าเจ้าตัวควรรับผิดชอบเอง ไม่ใช่ให้พ่อมารับผิดชอบแทน และก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากอีกฝ่าย เพราะว่าขนาดในตอนเช้าผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะขอโทษหรือไม่เจ้าตัวยังไม่ตอบ เลยมองว่าถ้าหากขอโทษก็คงจะขอโทษนานแล้ว และในวันนี้ก็คิดว่าตัวของคนก่อเหตุน่าจะไม่มางานศพ คงมีเพียงแค่ครอบครัวของเขาเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม หากคู่กรณีมาจริง ก็จะคุยกับกลุ่มไรเดอร์ ขอความร่วมมือไม่อยากให้มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้นในงาน เนื่องจากสามีตนก็ได้เสียไปแล้ว อยากให้เขาไปสบาย

    ลูกสาวไรเดอร์ เผยได้เงินเยียวยามาแล้ว 3 หมื่น

    นางสาวพัทธิกา ลูกสาวคนโตของ นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี ไรเดอร์ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการติดต่อขอโทษและแจ้งว่าจะเข้ามาขอขมาศพคุณพ่อ ซึ่งตนก็ยินดีที่จะให้เข้ามา เพราะครอบครัวของคู่กรณีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ส่วนคู่กรณีถ้าอยากจะเข้ามาขอขมาศพ ตนก็ยินดีเช่นกัน แต่ตนคาดว่าคู่กรณีไม่น่าจะเข้ามาเพราะมีกลุ่มไรเดอร์และมีสื่อมวลชนอยู่ที่งานศพเยอะ เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการแจ้งว่าจะไปรับศพที่นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วย แต่พอตนบอกว่ามีสื่อมวลชนอยู่เยอะอีกฝั่งก็ไม่กล้ามาเลย

    ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการรับปากว่าจะเยียวยาชดใช้อย่างสุดความสามารถ ทั้งค่าจัดงานศพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการโอนเงินในเบื้องต้นมาแล้ว 30,000 บาท

    ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้ฝากบอกคู่กรณีว่า กล้าทำก็อยากให้กล้ารับผิดชอบ ทุกคนเห็นหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

    นายห้างร้านผ้า พ่อผู้ต้องหา ขอขมาที่งานศพ

    นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ ได้เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิศักดิ์ โดยทันทีที่มาถึงก็ได้เข้าไปกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นลูกชายของตนไม่ได้เจตนา รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว

    ส่วนลูกชายของตนหลังจากที่ศาลฯ ให้ประกันตัวออกมา ตนก็ยังไม่ได้เจอหน้าและไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย แต่เชื่อว่าลูกชายของตนยังอยู่ในอาการช็อก และเชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องของการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรมศพตลอด 3 คืน

     

     

     

  • เงินดิจิทัลเฟส 2 ขึ้นสถานะแบบนี้แปลว่าอะไร มีสิทธิ์ได้ 10,000 บาทไหม

    ชาวเน็ตแชร์ เงินดิจิทัลเฟส 2 ขึ้นสถานะแบบนี้แปลว่าอะไร ยังมีสิทธิ์ได้เงิน 10,000 บาท

    หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 2 ผ่านแอปฯ ทางรัฐ ในวันนี้ (22 ม.ค. 68) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป มีผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนเงินดิจิทัลเฟส 2 เข้าสู่ระบบในแอปฯ ทางรัฐอย่างต่อเนื่อง และเมื่อทุกคนเข้าตรวจสอบสิทธิ์แต่ละคนก็จะได้รับข้อความแจ้งสถานะที่แตกต่างกันออกไป โดย Sanook Money ได้รวบรวมแต่ละสถานะในชาวเน็ตแชร์กันในโลกเซียลมาช่วยตีความหมายให้เข้าใจกันมากขึ้นมาฝากกัน

    s__2015244_0

    สถานะแจ้งว่า “ยินดีด้วยคุณได้รับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ”

    • แปลว่า ผ่านคุณสมบัติ เงื่อนไขเงินดิจิทัลเฟส 2 รับเงิน 10,000 บาท ให้รีบผูกพร้อมเพย์ภายในวันนี้ (22 ม.ค. 68) เพื่อรับเงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเข้าบัญชีวันที่ 27 ม.ค. 68

    s__2023438

    สถานะแจ้งว่า ท่านลงทะเบียนสำเร็จ แต่ไม่เป็นผู้สูงอายุ ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ระบบ จะแจ้งผลการลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ท่านทราบ ตามวันและเวลาที่รัฐบาลกำหนด

    • แปลว่า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนโครงการฯ สำเร็จ ถึงขั้นตอนที่ 3 แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ปัจจุบันกำลังตรวจสอบสิทธิ์กับหน่วยงาน

    s__2015242_0

    สถานะแจ้งว่า ปิดลงทะเบียน ขณะนี้หมดเขตการลงทะเบียนแล้ว

    • แปลว่า ไม่ได้รับสิทธิ์ เพราะไม่ได้ลงทะเบียนให้สำเร็จ ก่อนวันที 15 ก.ย. 67

    สถานะแจ้งว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่ฐและคนพิการ

    • แปลความหมายได้ 2 แบบ คือ เป็นผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน และคนพิการ ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว และโอนเงินไม่สำเร็จ และยุติการโอนเงินเพราะสิ้นสุดโครงการฯ แล้ว

    apps

    คุณสมบัติผู้ที่จะได้สิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 2 มีดังนี้

    • เป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สำเร็จ
    • มีสัญชาติไทย และมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507) และมีคุณสมบัติเพิ่มเติม
    • ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
    • ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
    • ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
    • ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
    • ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

    วิธีเช็กสิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 2 ผ่านแอปทางรัฐ

    1. เข้าแอปฯ ทางรัฐ และกดปุ่ม ตรวจสอบสถานะ
    2. ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และ ขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่ม ยืนยันข้อมูล
    3. กรอก เบอร์โทรศัพท์ และ กดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
    4. กรอก รหัส OTP และกดปุ่ม ยืนยันโทรศัพท์มือถือ
    5. กดปุ่ม อนุญาต ให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และ
    6. ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด
      • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
      • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ
      • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือ ได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

    อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินดิจิทัลเฟส 2

  • หวยลาววันนี้ 22 มกราคม 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 22/01/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 22 มกราคม 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 22 มกราคม 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่ 

    รายงานผลหวยลาว 22 มกราคม 2568 (22/01/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 22 มกราคม 2568

    เลข 6 ตัว : 774361
    เลข 5 ตัว : 74361
    เลข 4 ตัว : 4361
    เลข 3 ตัว : 361
    เลข 2 ตัว : 61

    เลขนามสัตว์

    • 29 ปลาไหล
    • 26 มังกร
    • 40 นกอินทรีย์
    • 39 ปู

    ผลสลากพัฒนา 5/45

    27 / 06 / 20 / 01 / 08

    รายละเอียดผลหวย

    เงินรางวัล

    • เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    • เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    • เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ
  • รวม 13 กลิ่น “แมว” ไม่ชอบอย่างรุนแรง อย่าเอาไปใกล้เจ้านาย

    สิ่งที่แมวรังเกียจบางอย่างนั้นชัดเจนอยู่แล้ว (คุณกล้าอาบน้ำให้แมวไหม?) แต่เมื่อพูดถึงกลิ่น แมวอาจพบว่ากลิ่นบางอย่างที่เราไม่ได้สังเกตเห็นนั้นรุนแรงมาก การทำความเข้าใจว่าแมวเกลียดกลิ่นอะไรจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงได้ สร้างสภาพแวดล้อมที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้นสำหรับเจ้าเหมียว หรือหากปลอดภัยสำหรับแมว กลิ่น “ไม่พึงประสงค์” เหล่านี้ก็อาจเป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันไม่ให้แมวเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ต้องการ ดังนั้น แมวเกลียดกลิ่นอะไรมากที่สุด? กลิ่นทั้ง 13 นี้คือสิ่งที่แมวรังเกียจมากที่สุด

    13 กลิ่นที่แมวไม่ชอบอย่างรุนแรง

    1.กลิ่นจำพวกส้ม: เราอาจหลงใหลในกลิ่นหอมสดชื่นของเลมอน ไม้เลมอน ก्रेปฟรุต และส้ม แต่กลิ่นหอมหวานเหล่านั้นในฤดูใบไม้ผลิกลับเป็นกลิ่นที่แมวเกลียดมากที่สุด กลิ่นน้ำมันจากส้มจำพวกนี้อาจรุนแรงเกินไปสำหรับระบบรับกลิ่นที่บอบบางของแมว และอาจทำให้เกิดการระคายเคือง

    2.กลิ่นของรสจัด รสเผ็ด แมวอาจจะไม่ได้เกลียดกลิ่นอาหารรสจัดโดยธรรมชาติ แต่พริกป่น พริกชี้ฟ้า และส่วนผสมรสเผ็ดอื่นๆ มีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้รู้สึกแสบร้อน ไม่ใช่แค่สำหรับคนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแมวด้วย การสูดดมเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้แมวผงะ และเชื่อมโยงกลิ่นนั้นกับอันตรายได้

    3.น้ำมันหอมระเหย แมวกับน้ำมันหอมระเหยไม่ควรอยู่ใกล้กันเลยค่ะ ดร. กาเบรียล เดนตัน สัตวแพทย์และผู้ฝึกสัตว์เลี้ยง กล่าวว่า น้ำมันหอมระเหยเป็นพิษต่อแมว ไม่ว่าแมวจะสัมผัสกับน้ำมันเหล่านี้ทางผิวหนัง การกิน หรือการสูดดมก็ตาม น้ำมันหอมระเหยที่อันตรายต่อแมวมากที่สุดบางชนิด ได้แก่ เปปเปอร์มินต์ น้ำมันทีทรี และน้ำมันกานพลู ยูคาลิปตัสกับแมวก็เป็นคู่ที่ไม่เข้ากันเช่นกัน

    สัญญาณบ่งบอกว่าแมวได้รับพิษจากน้ำมันหอมระเหย ได้แก่:

    • น้ำลายไหล: แมวอาจน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
    • อาเจียน: อาจมีอาการอาเจียน
    • ตัวสั่น: ร่างกายสั่นเกร็ง
    • เดินเซ: เดินไม่มั่นคง ลำบาก
    • ซึม: ขาดความกระฉับกระเฉง เฉื่อยชา
    • หายใจลำบาก: หายใจเร็ว หรือมีเสียงหายใจผิดปกติ

    4.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้าน น้องแมวของคุณต้องการอะไรมากที่สุด? ก็คือ คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง และไม่มีกลิ่นฉุนรบกวนบ้านนั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุน เช่น น้ำส้มสายชู, ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, แอมโมเนีย หรือสารเคมีที่มีกลิ่นฉุนแรงอื่นๆ จะระคายเคืองระบบทางเดินหายใจของแมว ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัด และสารเคมีเหล่านี้ยังเป็นพิษต่อแมวหากเลียเข้าไปขณะที่เลียขนหรืออุ้งเท้า

    5.กลิ่นของสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หากแมวของคุณมีนิสัยรักอาณาเขตสูง หรือไม่ถูกกับแมวตัวอื่นๆ พวกมันอาจมีปฏิกิริยารุนแรงเมื่อได้กลิ่นแมวตัวอื่นติดตัวคุณ พวกมันอาจคิดว่ามีแมวตัวอื่นบุกรุกอาณาเขตและต้องการปกป้องทรัพย์สินของตัวเอง” ไม่เพียงแค่แมวเท่านั้น สิ่งนี้ยังเกิดขึ้นได้กับกลิ่นของสัตว์อื่นๆ เช่น สุนัข หรือแม้แต่สัตว์นักล่าในป่า เช่น โคโยตี้ หากแมวของคุณออกไปข้างนอก

    6.น้ำหอมและโคโลญจ์ แมวของคุณจะรู้สึกว่าคุณหอมที่สุดเมื่อไม่มีกลิ่นตัวใดๆ เลยค่ะ เช่นเดียวกับกลิ่นแรงๆ ชนิดอื่นๆ น้ำหอมและโคโลญจ์ก็เป็นกลิ่นที่แมวเกลียดมากที่สุด เพราะกลิ่นเหล่านี้รุนแรงเกินกว่าที่แมวจะรับได้ และอาจทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายตัว หรือระคายเคืองทางเดินหายใจ

    7.ตะไคร้หอม ตะไคร้หอมเป็นสารไล่ยุงที่ได้รับความนิยม แต่ก็อาจทำให้แมวที่คุณรักหนีหายไปได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยในตะไคร้หอมมีกลิ่นแรง ซึ่งอาจรุนแรงเกินไปสำหรับประสาทสัมผัสด้านกลิ่นที่บอบบางของแมว เหมือนกับกลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มนั่นเอง

    8.ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม แมวจะเลือกนอนบนที่นอนเก่าๆ ที่ใช้มานานมากกว่าที่นอนที่ซักใหม่เสมอ แม้ว่าผงซักฟอกจะไม่มีกลิ่นก็ตาม การกำจัดหรือปิดบังกลิ่นและฟีโรโมนตามธรรมชาติของแมวออกไปมากเกินไป ทำให้แมวรู้สึกไม่ปลอดภัย

    9.กระบะทรายสกปรก คุณคงไม่อยากอยู่ใกล้ห้องน้ำที่สกปรกใช่ไหมคะ? แมวก็เช่นกัน นอกจากกลิ่นเหม็นจะรบกวนความสะอาดที่แมวรักแล้ว พวกเขายังมีสัญชาตญาณในการขับถ่ายออกไปจากที่อยู่อาศัยและฝังกลบ เพราะไม่อยากดึงดูดสัตว์นักล่า กระบะทรายที่สกปรกเต็มไปด้วยของเสียอาจทำให้แมวรู้สึกไม่สบายใจ และอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การขับถ่ายนอกกระบะทราย ดังนั้นควรตักกระบะทรายอย่างน้อยวันละครั้ง และทำความสะอาดอย่างล้ำลึกด้วยสบู่และน้ำทุกๆ สองสามสัปดาห์

    10.กลิ่นยาหม่อง ทำไมถึงเกลียดกลิ่นยาหม่อง ยาแก้ไอ และลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของเมนทอล? ดร.เบลล์อธิบายว่า “เราสามารถดมกลิ่นแคทนิปได้ แต่ไม่เหมือนกับที่แมวดม” มันเป็นปฏิกิริยาทางเคมี ไม่ใช่แค่กลิ่นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้แมวตื่นเต้น แต่เมนทอล แม้จะสกัดมาจากมิ้นต์ แต่เป็นสารสังเคราะห์ เนื่องจากเมนทอลขาดสารเคมีตามธรรมชาติที่พบในแคทนิป กลิ่นสังเคราะห์นี้จึงทำให้แมวรู้สึกไม่ชอบ

    11.ควันบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่ทั่วไป บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา หรือแม้แต่ควันจากการปิ้งย่างและกองไฟ สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะแมวไม่สามารถอยู่ร่วมกับควันได้เลย ควันบุหรี่มือสองสามารถทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจร้ายแรงและเกาะติดอยู่บนขนของแมวได้

    12.กล้วย การวางกล้วยทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์อาจช่วยไล่แมวของคุณได้! แม้ว่าเนื้อกล้วยจะไม่เป็นพิษต่อแมวหากกินในปริมาณที่พอเหมาะ แต่เปลือกกล้วยจะปล่อยสารเอทิลอะซิเตท ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้เกิดกลิ่นฉุน และแมวมักไม่ชอบกลิ่นนี้

    13.กลิ่นที่เกี่ยวข้องกับความเครียด แมวสามารถเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกลิ่นกับความเครียดได้ เช่นเดียวกับมนุษย์ ดร. เบลล์กล่าวว่า การพาแมวไปพบสัตวแพทย์ ซึ่งรวมถึงการเดินทางด้วยรถยนต์และการตรวจร่างกาย อาจทำให้แมวรู้สึกเครียด สิ่งนี้อาจทำให้แมวเชื่อมโยงกลิ่นของกระเป๋าเดินทาง รถยนต์ หรือคลินิกกับความเครียด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมป้องกันตัว

    เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรล้างกระเป๋าเดินทางของแมวอย่างทั่วถึงด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงหลังจากพาแมวไปพบสัตวแพทย์ และเก็บไว้ในที่แห้งและสะอาด ยิ่งไปกว่านั้น ควรวางกระเป๋าเดินทางไว้ในบ้านเพื่อให้แมวคุ้นเคยกับมัน และปล่อยให้แมวปล่อยฟีโรโมนที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายภายในกระเป๋า

  • อดีตสาววีแกน ผันตัวกินแต่เนื้อสัตว์-นม เป็นเวลา 6 ปี เผยผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ

    คุณเดาออกไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ เมื่อเธอละทิ้งผัก ผลไม้ และแป้ง แล้วกินแค่เนื้อสัตว์กับผลิตภัณฑ์จากนมตลอด 6 ปี?

    เบลล่า จากสหรัฐอเมริกา เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 421,000 คนบนอินสตาแกรม @steakandbuttergal ซึ่งเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงนี้จากการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับวิถีการกินที่สวนทางของเธอ ในขณะที่โลกกำลังถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียของการกินวีแกนที่กำลังได้รับความนิยม เบลล่ากลับเลือกที่จะกินเพียงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมเท่านั้น

    เบลล่า เล่าว่า ก่อนที่จะหันมาทานอาหารแบบนี้ เธอเคยกินวีแกนมาหลายปี แต่ในช่วงนั้นเธอเผชิญปัญหามากมาย เช่น ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีกลิ่นตัว ปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง อ่อนเพลียเรื้อรัง และมีปัญหาในการจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ

    เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เบลล่าตัดสินใจละทิ้งการกินวีแกนอย่างสิ้นเชิง และเปลี่ยนมากินเฉพาะเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม พร้อมทั้งเลิกบริโภคคาร์โบไฮเดรต ผลไม้ ผัก และอาหารใด ๆ ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ แม้ว่าการตัดสินใจนี้จะสวนทางกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหลายคน แต่เบลล่าเชื่อว่าสิ่งนี้นำมาซึ่งประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย

    เธอเล่าว่า หลังจากเปลี่ยนมาทานอาหารแบบนี้เพียงไม่กี่เดือน ร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน “ฉันน้ำหนักลดลงประมาณ 11 กิโลกรัม ประจำเดือนกลับมาปกติ และไม่มีอาการเจ็บปวดอีกต่อไป พลังงานและอารมณ์ของฉันก็สมดุลมากขึ้น เพราะร่างกายเปลี่ยนมาใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต” 

    อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เธอเน้นย้ำคือเรื่องกลิ่นกายที่ดีขึ้น เบลล่า เผยว่า เมื่อครั้งที่เธอยังกินวีแกน เธอมักประสบปัญหากลิ่นเหงื่อ การผายลมบ่อย และกลิ่นลมหายใจที่ไม่พึงประสงค์ แต่เมื่อเปลี่ยนมากินเนื้อสัตว์ ปัญหาเหล่านี้กลับหายไป “ฉันไม่ต้องใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำพิเศษอีกต่อไป ร่างกายฉันมีกลิ่นที่สะอาดและน่ารื่นรมย์โดยธรรมชาติ และฉันก็ไม่ค่อยผายลมอีกแล้ว” เบลล่า กล่าว

    การกินเฉพาะเนื้อสัตว์และนมดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

    แม้ว่าประโยชน์ด้านสุขภาพที่เบลล่าเล่าจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็นำไปสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวาง ทั้งในโลกออนไลน์และในวงการโภชนาการและการแพทย์

    ตามคำแนะนำของสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติอังกฤษ (NHS) อาหารที่สมดุลควรประกอบด้วยผลไม้และผักอย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน ควบคู่กับอาหารที่มีไฟเบอร์สูง นม หรือผลิตภัณฑ์ทดแทนนม รวมถึงโปรตีนจากแหล่งทั้งสัตว์และพืช

    แม้ว่าการกินของเบลล่าอาจเหมาะกับร่างกายและความต้องการส่วนตัวของเธอ แต่นักโภชนาการย้ำว่าไม่มีรูปแบบการกินใดที่เหมาะกับทุกคน การกินแบบวีแกนหรือกินเฉพาะเนื้อสัตว์ต่างก็มีข้อดีสำหรับบางคน แต่หากทำไม่ถูกต้องก็อาจมีผลเสียระยะยาวได้

    สำหรับการกินแบบวีแกน หากไม่ได้รับวิตามิน B12 แคลเซียม และสารอาหารที่จำเป็นจากสัตว์อย่างเพียงพอ อาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร เช่น โลหิตจาง กระดูกพรุน และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

    ในขณะที่การกินเฉพาะเนื้อสัตว์อาจเสี่ยงต่อการขาดใยอาหาร ซึ่งนำไปสู่อาการท้องผูกและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวาน นอกจากนี้ การบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปในปริมาณมากยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง

    ดังนั้นแต่ละคนควรมองหาแนวทางการกินที่สมดุล หลากหลาย และเหมาะสมกับความต้องการสุขภาพของตนเอง หากคุณกำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกิน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น การตัดกลุ่มอาหารบางประเภทออกทั้งหมด

    ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน การรับประทานอาหารแบบสมดุลยังคงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมั่นคงที่สุด