Blog

  • 8 อาหารซื้อได้ทั่วไป กำจัดโซเดียมอย่างแจ๋ว กินแซ่บ ซดน้ำซุปแล้ว ใส่ปากตามเลย

    ร่างกายเราต้องการโซเดียมบ้าง แต่ถ้ากินมากเกินไป จะเกิดปัญหาได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นคือ ปวดหัว บวม ท้องผูก และอ่อนเพลีย หลังจากกินอาหารเค็มๆ เราสามารถปรับสมดุลโซเดียมได้ เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างไรก็ตามเราจึงอยากแนะนำ 8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย

    8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย

    1.กล้วย กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม โดยกล้วยขนาดกลาง 1 ผล ให้โพแทสเซียมประมาณ 9% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (422 มิลลิกรัม) โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิตหลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระยะยาว นอกจากนี้ กล้วยยังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลองนำกล้วยมาทำเป็นไอศกรีมกล้วยปั่นสูตร 2 ส่วนผสมกับเนยถั่วลิสง เพื่อเป็นของหวานเพื่อสุขภาพ

    2.อะโวคาโด อะโวคาโดครึ่งผลให้โพแทสเซียมประมาณ 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (488 มิลลิกรัม) นอกจากโพแทสเซียมแล้ว อะโวคาดยังอุดมไปด้วยใยอาหารอีกด้วย แทนที่จะทานกับชิปส์ที่มีโซเดียมสูง ลองทานกัวคาโมเลสูตร Almost Chipotle’s ของเราคู่กับพริกหยวกหรือแครอท แทนจะช่วยลดผลกระทบจากอาหารที่มีโซเดียมสูงได้

    3.กีวี กีวีมีรสชาติอร่อยสดชื่น และเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการรับประทานหลังอาหารที่มีโซเดียมสูง กีวี 1 ผล มีโพแทสเซียมประมาณ 148 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 3% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งของการรับประทานโซเดียมมากเกินไป คือ อาการท้องอืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นอาหารที่มีทั้งโซเดียมและโปรตีนสูง กีวีมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดอาการท้องอืดได้

    4.ผักใบเขียว ผักใบเขียวเป็นหนึ่งในผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด และหนึ่งในนั้นคือโพแทสเซียม ผักขมสุกหนึ่งถ้วยให้โพแทสเซียมสูงถึง 18% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือประมาณ 839 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยใยอาหารและสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย แต่มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีโดยไม่รู้สึกอิ่มเกินไป

    5.โยเกิร์ต หลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง การเลือกทานโยเกิร์ตเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลายประการ โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งช่วยปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย และมีโปรไบโอติกส์ที่ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถทดแทนของหวานประเภทอื่นๆ ได้อีกด้วย

    โยเกิร์ตผลไม้รสธรรมชาติหนึ่งถ้วย (ไขมันต่ำ) ให้โพแทสเซียมสูงถึง 216 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 5% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เพื่อลดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามา ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแล้วเติมผลไม้สดหรือสารให้ความหวานตามชอบ

    6.ถั่วขาว เพียงครึ่งถ้วยบรรจุโพแทสเซียมสูงถึง 595 มิลลิกรัม คิดเป็น 13% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและพึงพอใจโดยไม่ต้องเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ถั่วขาวกระป๋องมักมีโซเดียมสูงกว่าชนิดแห้ง ดังนั้น ควรเลือกชนิดที่มีโซเดียมต่ำและล้างถั่วกระป๋องก่อนนำไปประกอบอาหารเพื่อลดปริมาณโซเดียม หรืออาจเลือกปรุงถั่วแห้งเองก็ได้ ถั่วขาวมีราคาประหยัด อเนกประสงค์ และเป็นวัตถุดิบที่ควรมีติดตู้เสบียงไว้เสมอ สำหรับมื้ออาหารสุขภาพที่ช่วยให้คุณกลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

    7.น้ำมะพร้าว: น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 396 มิลลิกรัม (คิดเป็น 8% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน) นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แมกนีเซียม และแคลเซียม ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายได้รับการเติมน้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังมีแมงกานีส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และคอเลสเตอรอลในร่างกาย

    8.ชาสมุนไพร แม้ว่าชาทั่วไปอาจไม่ได้มีโพแทสเซียมสูงมากนัก แต่ชากิงเกอร์และชาสะระแหน่มีประโยชน์มากกว่าแค่ช่วยบรรเทาอาการท้องไม่สบาย สะระแหน่โดยเฉพาะ ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารที่มีไขมันได้ดีขึ้น ขิงก็ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและลดอาการบวม ช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นหลังรับประทานอาหาร

  • ชมคลิปกันชัดๆ “ตะวันฉาย” ปิดเกมไว “ซุปเปอร์บอน” ป้องแชมป์โลก ONE มวยไทย

    ดุเดือดสมราคาการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ สำหรับศึก ONE 170 เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี จัดเต็มดีกรีเดือดชูโรงด้วยไฟต์เดิมพันชิงเข็มขัดแชมป์โลก 3 เส้น ให้แฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ใน 195 ประเทศทั่วโลกได้รับชมความเร้าใจกันเต็มอิ่ม

    คู่เอกของรายการ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ขึ้นทำหน้าที่ป้องกันบัลลังก์เป็นครั้งที่ 4 จากคู่ปรับเก่า “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง โดยหลังจากแลกแข้งทักทายกันหนักๆตั้งแต่ยกแรก เริ่มยกสองมาไม่นาน “ตะวันฉาย” เป็นฝ่ายเดินบุกจนได้จังหวะซัดหมัดส่ง “ซุปเปอร์บอน” ลงไปนอนได้นับแรก ก่อนจะเร่งระดมยิงอาวุธใส่ไม่ยั้งจนได้อีก 2 นับ ชนะทีเคโอ รั้งเข็มขัดเหนียวแน่น พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) กลับบ้าน

    คู่รอง “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากบราซิล ทุ่มสุดตัวเพื่อป้องกันเข็มขัดครั้งแรกจาก “ควอน วอน อิล” คู่ปรับเก่าจากเกาหลีใต้ ที่ไฟต์นี้ตั้งใจมาถอนแค้นแบบทบต้นทบดอกให้ได้ โดยแชมป์โลกชาวบราซิลสามารถย้ำชัยผู้ท้าชิงไปอย่างไวในยกแรกเท่านั้น รั้งบัลลังก์สำเร็จอย่างไร้ข้อกังขา

    อีกหนึ่งคู่รองเป็นศึกแย่งชิงบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) เฉพาะกาล ระหว่าง “นิโค คาร์ริลโล” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 จากสกอตแลนด์ พบกับ “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งเชื้อสายแอลจีเรีย-ไทย ที่รั้งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ ปรากฏว่าเกมจบเร็วเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น เมื่อ “นาบิล” แจกอาวุธชุดใหญ่ปิดเกมชนะทีเคโอ “นิโค” แบบม้วนเดียวจบ ผงาดครองแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) โดย “นาบิล” ได้สิทธิ์ไปเปิดศึกรวบเข็มขัดกับแชมป์โลกตัวจริงกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ในศึก ONE 172 ที่ประเทศญี่ปุ่น
    dขณะที่ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” เปิดหน้าทดสอบพลังอึดของ “ซอ ลิน อู” คนเหล็กชาวกะเหรี่ยงจากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142.5 ป. ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างปักหลักซัดอาวุธกันอุตลุต ตลอด 3 ยก แต่ “เสกสรร” ออกอาวุธได้ครบเครื่องชัดเจนกว่า เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซอ ลิน อู” ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นลั่นสนาม

    ส่วน “สินสมุทร กลิ่นมี” ปะทะ “นาวเซต ทรูจิลโล” จากสเปน ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-175 ป.) ซึ่งผลงานที่ออกมา “สินสมุทร” ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ไล่ต้อน “นาวเซต” ร่วงลงไปกอง 3 นับ ปิดจ็อบชนะทีเคโอตั้งแต่ยกแรก พร้อมกับคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) ได้เป็นครั้งที่ 3 ใน ONE

    ข้ามไปที่ “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” ท้าพิสูจน์ความแกร่งของ “ธานท์ ซิน” จากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 137.25 ป. งานนี้ “สุริยันต์เล็ก” โชว์หัวใจแกร่ง แม้โดนเตะเจาะยางขาเจ็บตั้งแต่ยกแรก แต่ฮึดสู้กดหมัดส่ง “ธานท์ ซิน” ลงไปนอน 3 รอบในยก 2 ปิดเกมชนะทีเคโอไปได้แบบสะใจ

    ส่วน “โจ ณัฐวุฒิ” รั้งเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ไม่สำเร็จ โดยถูก “บัมปารา คูยาเต” เจ้าของอันดับ 4 ของแรงกิง จากฝรั่งเศส ซัดหมัดเข้าจังๆ ลงไปกอง 3 นับ อย่างรวดเร็ว ตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอตั้งแต่ยกแรก

    สำหรับนักกีฬาผลงานเด่นที่รับรางวัลโบนัสอัดฉีดในศึกนี้มีทั้งหมด 4 คน ได้แก่ “สินสมุทร กลิ่นมี”, “นาบิล อานาน”, “ฟาบริซิโอ อานดราเด” และ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” หลังต่างงัดฟอร์มเก่งเข้าตาบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าเงินรางวัลคนละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) รวมยอดทั้งสิ้นมากกว่า 6.8 ล้านบาท (หกล้านแปดแสนบาท) ในอีเวนต์เดียว รวมถึงแจกรางวัลพิเศษ ONE ซูเปอร์แฟน ให้กับผู้ชมในสนามอีก 100,000 บาท

    นอกจากนี้ ยังมีเซอร์ไพรส์ใหญ่จาก MILLI (มิลลิ) แร็ปเปอร์สาวจากค่าย YUPP! (ยัป!) ที่ใช้เวที ONE เปิดตัวเพลงใหม่ชื่อ “Heavy Weight” เป็นครั้งแรกของโลก โดยใช้เพลงนี้ในการเปิดตัวให้แชมป์โลก ONE “ตะวันฉาย” ซึ่งการปรากฏตัวของสองไอคอนต่างวงการครั้งนี้ ถือเป็นการเผยแพร่ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ทั้งในฝั่งศิลปะการต่อสู้ประจำชาติอย่างมวยไทยและศิลปินไทยไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก

    สรุปการแข่งขันทุกคู่ศึก ONE 170

    – คู่เอก ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ชนะทีเคโอ ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ นาทีที่ 1:10 ของยก 2 (ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – คู่รอง ฟาบริซิโอ อานดราเด (บราซิล) ชนะทีเคโอ ควอน วอน อิล (เกาหลีใต้) นาทีที่ 0:42 ของยกแรก (ชิงแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป.)
    – คู่รอง นาบิล อานาน ชนะทีเคโอ นิโค คาร์ริลโล (สกอตแลนด์) นาทีที่ 2:35 ของยกแรก (ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป. เฉพาะกาล)
    – เสกสรร อ.ขวัญเมือง ชนะคะแนนเอกฉันท์ ซอ ลิน อู (เมียนมา) (มวยไทย แคตช์เวต 142.5 ป.)
    – บัมปารา คูยาเต (ฝรั่งเศส/มาลี) ชนะทีเคโอ โจ ณัฐวุฒิ นาทีที่ 2:34 ของยกแรก (มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – สินสมุทร กลิ่นมี ชนะทีเคโอ นาวเซต ทรูจิลโล (สเปน) นาทีที่ 2:34 ของยกแรก (มวยไทย รุ่นไลต์เวต 155-170 ป.)
    – โยฮัน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) ชนะคะแนนเอกฉันท์ โจฮัน กาซาลี (มาเลเซีย/สหรัฐอเมริกา) (มวยไทย รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)
    – มาวริส อาเบวี (สวิตเซอร์แลนด์) ชนะทีเคโอ ซามัต มาเมดอฟ (คาซัคสถาน) นาทีที่ 2:46 ของยกแรก (MMA แคตช์เวต 176 ป.)
    – มาร์เซโล การ์เซีย (บราซิล) ชนะซับมิชชัน มาซากาซึ อิมานาริ (ญี่ปุ่น) นาทีที่ 4:49 ของยกแรก (ปล้ำจับล็อก ไม่จำกัดน้ำหนัก)
    – มาซาอากิ โนอิริ (ญี่ปุ่น) ชนะน็อก ชากีร์ แอล เตครีติ (อิรัก) นาทีที่ 0:14 ของยก 2 (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง ชนะทีเคโอ ธานท์ ซิน (เมียนมา) นาทีที่ 2:09 ของยก 2 (มวยไทย แคตช์เวต 137.25 ป.)
    – จอร์แดน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) ชนะคะแนนเอกฉันท์ เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี (สหราชอาณาจักร) (มวยไทย รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)

  • เปิดสูตรมื้อเช้าของ ดร.ชิน ผู้เชี่ยวชาญอัลไซเมอร์ อร่อยและดีต่อสมอง คนไทยก็กินตามได้!

    รู้ไว้ดีกว่า! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอัลไซเมอร์ เจอวิธี “ลด” เสี่ยงสมองเสื่อม ควรทานอาหารเช้าเมื่อใด และควรใส่อะไรในกาแฟ?

    โรคสมองเสื่อม เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของ ดร.เนธานีเอล ชิน (Dr. Nathaniel Chin) ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นผู้อำนวยการทางการแพทย์ของ “Wisconsin Registry for Alzheimer’s Prevention” แต่ยังเพราะว่าพ่อของเขาคือ ดร.โม ชิน (Dr. Moe Chin) เสียชีวิตในปี 2018 หลังจากต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์ แม้เดิมทีตั้งใจจะเรียนเฉพาะทางโรคติดเชื้อ แต่ตัดสินใจหันมาสนใจด้านการดูแลความจำ หลังจากเห็นพ่อของเขาต่อสู้กับอาการสมองเสื่อม เขายังมีพอดแคสต์ชื่อ “Dementia Matters” ที่พูดถึงงานวิจัยและคำแนะนำการดูแลผู้ป่วย 

    ดร. ชินทำหลายอย่างในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม รวมถึงการออกกำลังกายทุกเช้า หลีกเลี่ยงโซดาและน้ำผลไม้ และฝึกสมาธิในตอนท้ายของวันเพื่อลดความเครียด เขายังทำการ “อดอาหารแบบเว้นระยะ” (Intermittent fasting : IF) โดยจะทานมื้อแรกระหว่าง 11.00 น. ถึง 13.00 น. และจะหยุดกินอาหารประมาณ 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

    “ผมลองมาทุกอย่างแล้ว” ดร. ชิน ซึ่งเป็นรองศาสตราจารย์ที่ภาควิชาการแพทย์ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินกล่าว “การอดอาหารแบบเว้นระยะไม่ทำให้ผมลดน้ำหนัก แต่ช่วยให้ไม่เพิ่มน้ำหนัก และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล และความดันโลหิตให้เหมาะสม” เขากล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อว่ามันช่วยให้สุขภาพการเผาผลาญดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมในอนาคต”

    โรคอัลไซเมอร์เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของโรคสมองเสื่อม ซึ่งเป็นการเสื่อมสภาพของความจำ การสื่อสาร และทักษะการแก้ปัญหา ถึงแม้จะยังไม่มีวิธีรักษา แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการเลือกวิถีชีวิตที่ดี โดยเริ่มจากการเลือกรับประทานอาหาร อาหารที่ผ่านกระบวนการมาก และเต็มไปด้วยน้ำตาลและไขมัน สามารถเพิ่มการอักเสบในสมองและความเครียดจากออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้เซลล์สมองเสียหาย

    นั่นคือเหตุผลที่ ดร.ชิน หลีกเลี่ยงน้ำตาล เตรียมกาแฟเช้าของเขาด้วยขมิ้นและอบเชยแทนน้ำตาล “เพราะการอดอาหารของผม ผมจึงไม่เติมแคลอรี่ในกาแฟ และผมก็ชอบรสชาติของกาแฟดำจริงๆ” เขากล่าวเสริมว่า “ขมิ้นมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ผมเชื่อว่าโรคเรื้อรังส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ อบเชยสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และเป้าหมายของผมคือลดให้ระดับน้ำตาลคงที่ตลอดช่วงเช้า”

    ในส่วนของการอดอาหารแบบ IF ก็มีหลักฐานว่าอาจช่วยปกป้องสมองจากโรคอัลไซเมอร์และโรคทางสมองอื่นๆ การศึกษาหนึ่งในปี 2023 จาก UC San Diego พบว่าการจำกัดเวลาให้หนูทดลองกินอาหารแค่ 6 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยปรับเวลาในนาฬิกาชีวภาพของมันใหม่ ปรับปรุงความจำ และลดการสะสมของโปรตีนแอมิโลดในสมอง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคอัลไซเมอร์ ขณะที่การวิจัยอื่นๆ รายงานว่า หนูที่ได้รับอาหารแคลอรี่ต่ำที่ออกแบบให้เหมือนการอดอาหาร ทำคะแนนการทดสอบความจำได้ดีกว่าหนูที่ทานอาหารตามปกติ หนูที่อดอาหารยังมีการอักเสบในสมองลดลง รวมถึงระดับโปรตีนแอมิโลดและโปรตีนทาอูที่มีการฟอสโฟรีเลชันสูง ซึ่งทำให้เกิดการพันกันในสมอง

    แต่การอดอาหารแบบเว้นระยะไม่เหมาะกับทุกคน ดร. ชินกล่าว คนที่เป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาการกินควรปรึกษาแพทย์ “สำหรับคนอื่นๆ โดยทั่วไป การเริ่มอดอาหาร 12 ชั่วโมงถือว่าเป็นเรื่องปลอดภัย” ดร. ชินกล่าว “การหลีกเลี่ยงอาหาร 2-3 ชั่วโมงก่อนนอนก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับทุกคน และไม่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ ถ้าเราล่าช้าในการกินอาหารเช้าแค่ชั่วโมงเดียว เราก็อาจจะได้เวลา 12 ชั่วโมงแล้ว

  • “เบาหวานเปียก” กับ “เบาหวานแห้ง” คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

    โรคเบาหวานมีหลายประเภท ซึ่งสามารถจำแนกได้จากสาเหตุและอาการที่ปรากฏ การแบ่งโรคเบาหวานออกเป็น “เบาหวานแห้ง” และ “เบาหวานเปียก” นั้นเป็นการจำแนกตามลักษณะของแผลที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้ว จะนิยามโรคทั้งสองชนิดได้ดังนี้

    เบาหวานเปียก และเบาหวานแห้ง คืออะไร

    เบาหวานเปียกคืออะไร

    เบาหวานเปียก คือโรคเบาหวานชนิดเรื้อรังที่สร้างความกังวลมากกว่าเบาหวานชนิดอื่น เนื่องจากผู้ป่วยมักมีบาดแผลเรื้อรังที่ไม่ยอมสมาน แผลเหล่านี้ดูเปียกชื้นและมีแนวโน้มที่จะลุกลามใหญ่ขึ้น ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก

    เบาหวานแห้งคืออะไร

    เบาหวานแห้ง คือ โรคเบาหวานชนิดหนึ่งที่เป็นเรื้อรัง โดยลักษณะเด่นคือ แผลที่เกิดขึ้นมักจะแห้งได้เอง แต่ความจริงแล้ว เบาหวานแห้งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคเบาหวาน โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นโรคที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยเบาหวานเปียก เบาหวานแห้ง

    แนวทางการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผล

    1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรับประทานยาหรือฉีดอินซูลิน
    2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
      • การรับประทานอาหาร: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาล
      • การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
      • การพักผ่อน: พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
    3. ดูแลแผล:
      • รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
      • ทำให้แผลแห้ง: ป้องกันไม่ให้แผลเปียกชื้น
      • ป้องกันการเกิดแผลซ้ำ: ระวังไม่ให้เกิดบาดแผลใหม่
    4. พบแพทย์เป็นประจำ:
      • ตรวจสุขภาพ: ตรวจสุขภาพตามนัดหมายเพื่อติดตามภาวะแทรกซ้อน
      • ปรึกษาปัญหา: หากมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
      • ปรับยา: ปรับปริมาณยาหรืออินซูลินให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
    5. สังเกตอาการตนเอง:
      • บันทึกอาการ: จดบันทึกอาการที่เกิดขึ้น เช่น ขนาดของแผล การเปลี่ยนแปลงของแผล
      • ปรึกษาแพทย์: หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
  • ชาย ชาตโยดม พูดทั้งน้ำตา! เผยปมในใจการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต

    เปิดใจอย่างหมดเปลือก ชาย ชาตโยดม นักแสดงชื่อดังในรายการ WOODY FM หลั่งน้ำตา! เผยปมในใจถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตครั้งแรก เมื่อความศรัทธาในการแสดงที่ทุ่มเทมาตลอด 10 กว่าปีเริ่มจางหายไป รู้สึกผิดหวังและเฟลกับตัวเอง จนเกิดความขัดแย้งระหว่างอาชีพกับความสุขในชีวิตครอบครัว? 

    สิ่งที่คุณทำมาด้านการแสดงในทุกรูปแบบ อยากจะรู้ว่าวันนี้คุณพอใจกับมันขนาดไหน ?

    ชาย ชาตโยดม : ถ้าเล่าไปจริงๆ แล้ว มันหลายช่วงชีวิตของการเป็นนักแสดงเลย คือกว่าชายจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดงจริงๆ ต้องผ่านการทำงานอยู่ในวงการมาไม่ต่ำกว่า 10 กว่าปี ถึงจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดง เพราะว่าผมให้คุณค่ากับคำนี้มากๆ ให้ความสำคัญกับคำนี้มาก เพราะว่าการเป็นนักแสดงมันคืออาชีพ คือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับชาย คือสิ่งที่ให้ชีวิต ให้ความเป็นอยู่ที่ดี ให้ชายดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของชาย อะไรที่มันเป็นห้วง เป็นความกลวงอยู่ข้างในจิตใจ เขาสามารถที่จะเติมเต็มตรงนั้นได้จนไม่อยากจะเชื่อว่าวันหนึ่งอาจจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ และทำอาชีพนี้ มีโอกาสได้ทำตรงนี้ กว่าจะไปรู้สึกอย่างนั้นได้ก็คือทำงานอยู่ในวงการมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว 

    แล้ววันนี้มีความสุขกับการแสดงไหม ?

    ชาย ชาตโยดม : ถ้าวันนี้เลยชายมีความก้ำกึ่งเกิดขึ้นในชีวิต หมายถึงว่าเราเคยมีความมั่นใจมากๆ Beyond a shadow of a doubt เลยว่านี่คือสิ่งที่ชายรักมากที่สุด มันคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ทุ่มเททุกวินาทีของชีวิตให้กับสิ่งนี้ การแสดงคือสิ่งที่รักและศรัทธามากที่สุด หม่อมน้อยเคยถามชายว่า…ชอบการแสดงไหมรู้สึกยังไง? ชายตอบว่ารักมากเลย รักการแสดงมากๆ แต่ท่านบอกว่าความรักจริงๆ ไม่พอนะ ความรักมันยังมีความเห็นแก่ตัว ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่ถ้าคำว่าศรัทธาถ้าคุณศรัทธาในอะไรสักอย่าง คุณจะยกเขาขึ้นไว้เหนือกว่านั้นอีก คุณจะไม่ทำร้ายเขา คุณจะเชื่อในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เราศรัทธาอย่างหมดจดจริงๆ มันมีอะไรที่เหนือกว่าความรักที่ทำให้ชายเข้าใจว่า อ๋อ! นี่แหละคือสิ่งที่เราทุ่มเททุกอย่างให้ชีวิตจริงๆ มันก็เลยเป็นเป้าหมายของใจอยู่ตลอดในตอนนั้นว่า ถ้าเรารัก เราศรัทธาในสิ่งที่เราทำจริงๆ เราจะไม่ทรยศต่อเขาเลย เราจะมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ไม่ทำร้ายเขา และทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ก็เลยทุ่มเทอยู่กับตรงนั้น มันเป็นสัจธรรมมากเลยว่าถ้าเราศรัทธาอะไรสักอย่างแล้วทุ่มเทกับตรงนั้นสิ่งที่ดีก็จะกลับมาหาเราแล้วมันก็เป็นไปตามนั้นมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หมดรักเขา ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นเลย ชายวางเป้าชีวิตเอาไว้ว่าจะเป็นนักแสดง จะอยู่กับตรงนี้ไปจนหมดลมหายใจ แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยากทำ ไม่อยากไป ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากแม้แต่จะเอาบทขึ้นมาดูเลยด้วยซ้ำ ในจังหวะที่เกิดความรู้สึกนี้ผมก็รู้สึกเฟลกับตัวเองมากด้วยเหมือนกัน

    เฟลยังไง ?

    ชาย ชาตโยดม : ชายไม่สามารถที่จะเอาความรู้สึกออกจากตัวได้ ชายพูดอยู่ตลอด บอกทุกคนเลยว่าโอกาสที่คนๆ หนึ่งจะเข้ามาทำอาชีพตรงนี้ เป็นนักแสดงมันน้อยมากๆ เลยนะ เรานับได้เลย ว่าใครมีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้ ไม่ใช่แค่นักแสดงไทยอย่างเดียวนะ นักแสดงทั่วโลกเลย มีอยู่แค่หยิบมือเดียวเท่านั้นในโลกนี้ที่มีโอกาสจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้ทำแบบนี้ วันหนึ่งเป็นมหาเศรษฐี อีกวันหนึ่งมาเป็นยาจก มันโลดโผน มีอาชีพไหนที่จะมีโอกาสได้ทำแบบนี้อีก ไม่มีแล้ว เข้าไปอยู่ในโลกของความฝัน ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้นผ่านตัวละคร คิดว่าเข้ามาตรงนี้ง่ายๆเหรอ เขาเลือกมาแล้วว่าคุณเป็นหนึ่งในนั้นที่จะมีโอกาสได้มาทำตรงนี้ คุณจะไม่ทำให้ดีที่สุดเหรอ จะไม่เอาโอกาสนี้มาสร้างอะไรที่มีคุณค่าขึ้นมาเหรอ แล้ววันหนึ่งชายไปเป็นคนๆนั้น แบบเมื่อไหร่จะถ่ายเสร็จสักที (หัวเราะ) 

    อะไรที่เป็นแรงกระตุ้นให้ต่อมนั้นมันขึ้นมา ?

    ชาย ชาตโยดม : อันนี้คือสิ่งที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอกใครมาก่อน เพราะว่าอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาแล้วทำให้ชีวิตชายเปลี่ยน แล้วความคิดเปลี่ยน คือสิ่งที่ชายรักมากที่สุดด้วยเหมือนกันคือครอบครัว (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) ครอบครัวคือสิ่งที่ชายฝันมาตลอดชีวิต (ร้องไห้) 

    พอมีครอบครัวแล้ว ?

    ชาย ชาตโยดม : มันคือความสุข เห็นความสุขในอีกมิติหนึ่งที่เรารอคอยมาตลอดทั้งชีวิต ชายมั่นใจมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ก็คืออยากจะมีครอบครัว วางแผนไว้ว่า 20 กว่าจะแต่งงาน ไม่เกิน 25 จะมีลูกแล้ว แล้วพอถึงเวลามันไม่ได้เป็นไปตามนั้น มันมาเกิดขึ้นตอนเราอายุ 35 แล้ว ตอนที่ได้แต่งงานมีครอบครัวคือรู้สึกว่ามันดีจังเลยนี่คือสิ่งที่เรารอคอยมาตลอด เติมเต็มชีวิตเรามากเลย แล้วตอนที่มีลูกคือสิ่งที่เราฝันมาตลอดทั้งชีวิต แล้วในวันนั้นอยู่ดีๆ มันก็ Switch แบบไม่ทันตั้งตัวเลยคือชายไม่อยากเอาอะไรแล้ว ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากโดนพรากเวลาจากชีวิตตรงนี้ไป    

    เป็นช่วงก่อนละคร มาตาลดา ไหม ?

    ชาย ชาตโยดม : ก่อนครับ สักพักใหญ่ๆ เป็นช่วงที่ชายต่อสู้กับตัวเองหนักมาก เพราะว่าผมไม่อยากจะออกไปไหนเลย ไม่อยากจะโดนพรากสิ่งที่ผมรักตรงนี้ไป ลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผม ไม่อยากพลาดแม้แต่วินาทีเดียวในการเติบโตของเขา การพัฒนา ก้าวแรก ทุกอย่างที่เป็นครั้งแรก ผมอยากจะอยู่ตรงนั้น ถ้ามีใครโทรมาขอคิววันนั้นคือชายโกรธแล้วอ่ะ ว่าทำไมต้องมีมันเป็นช่วงที่แย่มาก เพราะผมรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเราอย่างหนึ่งด้วย พอมีความโกรธตรงนั้นขึ้นมาเลยรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ในเมื่อก่อนหน้านี้สิ่งนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม มีความสุขที่สุดแล้วกับการไปอยู่ที่กองถ่าย มันคือสีสันสิ่งที่เติมเต็มในชีวิต มัน Switch ตัวเองกลับมาไม่ได้ มันหาทางที่จะมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่เราต้องทำไม่ได้แล้ว หายังไงก็หาไม่เจอ ผมอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ ลูกเกิดมาคนแรกผมไม่ทำอะไรเลย อยู่กับลูก 2 ปีเต็มๆ แบบที่ไม่ออกไปไหน ใจผมอยู่ตรงนั้นไปแล้ว แล้วก็ไม่ได้ไปมองอะไรรอบข้าง จนมารู้ตัวอีกทีในตอนที่เราเกิดความโกรธ แล้วทุกครั้งที่นั่งอยู่ในกองถ่ายก็จะรู้สึกว่าเสียเวลาจังเลยเมื่อไหร่จะเสร็จ พอเป็นแบบนั้นมีสติเมื่อไหร่ชายเกลียดตัวเองมากเลย เกลียดตัวเองที่คิดแบบนั้น ที่เราเป็นคนแบบนั้น เพราะผมต่อต้านมาตลอดกับคนที่มี Mindset แบบนี้กับการที่เข้ามาในวงการนี้ที่ผมบอกว่าผมรัก ผมศรัทธา ใครที่มีทัศนคติกับการแสดงผมจะต่อต้านสุดๆ เลย ในวันนั้นกลายเป็นผมเองที่กลายเป็นคนๆ นั้น 

    ถ้าวันนี้ไปออกกองถ่ายมันยังมีสะเก็ดอยู่บ้างไหม หรือมันยังเหมือนเดิม ?

    ชาย ชาตโยดม : ยังไม่สามารถกลับไปที่เดิมได้เลยนะ สารภาพเลยว่าตอนนี้ยังกลับไปตรงนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่ายังสู้กับตัวเองอยู่ ยังหาทางออกให้กับชีวิตอยู่ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่อยู่กับตรงนั้นหนักเลยจริงๆ ก็ยังทำงานอยู่นะ ยังอยู่ในกองถ่าย ทำในขณะที่จิตใจไม่ปกติ ชายไม่รู้ว่าคนดูออกหรือเปล่า หลายครั้งรู้สึกว่าตัวเองกำลังเฟคอยู่ในขณะที่เป็นตัวละครต่างๆ ยังมีความรู้สึกเดาว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แบบไม่ได้จริงใจกับตัวละครนั้นอย่างที่เราอยากให้มันเป็นหรือควรจะทำ อย่างละครมาตาลดายังไม่รู้ว่า ชายสมควรที่จะได้รับความชื่นชมอะไรตรงนั้นหรือเปล่า (เสียงสั่นจะร้องไห้) 

    เชื่อว่าคอนเทนส์นี้ ถ้าเป็นผู้จัดที่อยากโทรไปหาคุณก็อาจจะมีสติมากขึ้น ?

    ชาย ชาตโยดม : ไม่ (หัวเราะ) ยังจ้างได้ นั่นคือความกังวลอีกอย่างหนึ่งที่อยู่ในใจ เพราะว่าด้วยความที่เราก็มีลูก เราไม่ได้อยากมี Mindset นี้ในการที่จะไปทำงาน พยายามที่จะกลับไปอยู่ตรงนั้นให้ได้ แต่ว่าอาชีพมันก็ต้องมีคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเรา และเลี้ยงดูครอบครัวเราด้วย คือไม่ได้อยากอยากพัก อยากมีอาชีพเลี้ยงดูลูก ส่งลูกเรียนได้อย่างปลอดภัยถึงฝั่ง แต่เราโหยหาความรักความศรัทธาความทุ่มเทที่เราเคยมีให้กับอาชีพ ที่ไม่มีอะไรมาบั่นทอนตรงนั้นได้เลยจนกระทั่งเรารู้ว่ามันมี แต่สิ่งที่พาเรามาถึงจุดนี้ได้ ยังอยู่และทำงานได้ก็คือ คนเราไม่ได้ต้องรักและทุ่มเทกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างเดียวไปตลอดทั้งชีวิต เพิ่งจะเริ่มเข้าใจว่าแพชชั่นก็คือสิ่งที่เราอยากจะทุ่มเทเวลากำลังกายกำลังใจให้กับเขาอย่างเต็มที่ในเวลานั้น แต่ถ้าวันหนึ่งเราจะ Move On ไปที่แพชชั่นอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถที่จะมีแพชชั่นกับหลายๆสิ่งได้ แล้วแต่ว่าช่วงจังหวะนั้นเราทุ่มเทเวลากับอะไร แล้วก็พยายามที่จะบาลานซ์มันให้ได้แล้วกัน ถ้าจะต้องทำหลายๆอย่างพร้อมกันจะแบ่งเวลา แบ่งความทุ่มเทให้กับเขาได้มากน้อยแค่ไหน  แต่ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้บอกว่าตัวเองทำได้นะ จังหวะชีวิตเท่านั้นเอง ตอนนี้มันอาจจะไม่ได้งานเยอะจนไม่มีเวลาอยู่กับลูกก็เลยสบายใจหน่อย หรือว่าช่วงนี้ลูกเข้าเรียนแล้ว 2 คนมีเวลาที่จะไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ทุ่มเทกับการทำงานได้มากขึ้น 

    วันนี้เหมือนเราได้รับรู้ความรู้สึกของคุณแบบหมดเปลือก และอยากเป็นกำลังใจให้ ?

    ชาย ชาตโยดม : ชายรู้สึกเลยว่าถ้าไม่ได้พูด ผมจะหลุดจากวังวนนั้นไม่ได้ คือไม่เคยพูดกับใครเลยเหมือนกันนะ ไม่เคยพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง อย่างมากสุดคือปรึกษากับวิกกี้อย่างเดียว ให้กำลังใจรับรู้ได้ แต่วันนี้เหมือนได้ปลดปล่อย รู้สึกว่ามันปลดล็อกจริงๆ ว่าเรารู้สึกแบบนี้ได้นะ มันรู้สึกผิดมาตลอด ดีใจที่ได้พูด (ยิ้ม) 

    สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

  • 1 ปีมีครั้งเดียว ส่งเสด็จเทพเจ้าขึ้นสวรรค์รับตรุษจีน ส่องเลขธนบัตร-เลขหางประทัด

    ศิษยานุศิษย์แห่ส่งเสด็จเทพเจ้าขึ้นสวรรค์รับตรุษจีน ไม่พลาดส่องเลขธนบัตร และหางประทัด ลุ้นโชคงวด 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (23 ม.ค.) ที่ศาลเจ้าซาไท้จื้อเอี๊ยะกง ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม องค์เทพเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยะกง ได้นำศิษยานุศิษย์ทั้งชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมสวดมนต์บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    และร่วมกันสร้าง กิมฮวยซัส หรือ ภูเขาดอกไม้สวรรค์ สูง 3 เมตร คล้ายกับเป็นการนำสิ่งของเครื่องใช้ขององค์เทพสุมกันเป็นภูเขาสูงจนถึงสวรรค์ เพื่อส่งเสด็จองค์เทพเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยะกง ขึ้นสวรรค์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อไปขอพรต่อองค์เง็กเซียนฮ้องเต้ กลับมาประทานพรให้กับลูกศิษย์ทุกคน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

    บริเวณด้านหน้าภูเขาดอกไม้สวรรค์ มีตัวอักษรจีน เขียนว่า “ตั่วใช้” แปลว่า โชคลาภอันยิ่งใหญ่ และ ตัว “หก” แปลว่า บุญวาสนา รวมความหมาย เป็นโชคลาภวาสนาอันยิ่งใหญ่ ให้กับลูกศิษย์ทุกคน

    นอกจากนี้ องค์เทพเจ้านาจาซาไท้จื้อเอี๊ยะกง ยังแจกอั่งเปาให้กับลูกศิษย์ทุกคน ซึ่งบางรายก็ไม่พลาดส่องเลขธนบัตร 472 เพื่อไปลุ้นรางวัลงวดนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่องค์เทพเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ลูกศิษย์ได้จุดประทัดหลายหมื่นนัด ซึ่งก็แน่นอนเซียนหวยมาพลาดส่องเลขหางประทัด 63 และ 944 ติดปลายนวมไปลุ้นรางวัลงวด 1 กุมภาพันธ์ 2568 เช่นกัน

  • ต่างชาติวอนช่วยแปล ข้อความผนังบ้านร้างในอิสราเอล คนไทยอ่านแล้วอึ้ง เนื้อหาอย่างพีก!

    ต่างชาติวอนช่วยแปล ข้อความบนผนังบ้านร้างในอิสราเอล คนไทยอ่านแล้วอึ้ง เนื้อหาอย่างพีก!

    ผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ใน reddit ซึ่งเป็นกระทู้แลกเปลี่ยนออนไลน์ของต่างชาติ ระบุว่า สวัสดี ใครสามารถช่วยแปลข้อความนี้ให้หน่อยได้ไหม พบข้อความนี้บนกำแพงของบ้านร้างในทุ่งนาในอิสราเอล เพื่อนของผมคิดว่ามันเป็นภาษาไทย

    พร้อมแนบภาพผนังที่มีข้อความภาษาไทยถูกเขียนด้วยลายมือ ซึ่งมีตัวอักษรบางส่วนลบเลือนหายไป แต่ยังคงพอจับใจความได้

    โดยชาวเน็ตต่างชาติหลายคนก็อยากรู้ความหมาย เดากันไปต่างๆ นานา ว่าข้อความดังกล่าวอาจเป็น บทสวด, คำสั่งเสีย, คำสาบาน หรืออะไรที่ดูหลอนๆ ลี้ลับ

    ทำให้มีคนไทยเข้าไปช่วยแกะลายมือตีความหมาย โดยข้อความที่เขียนในช่วงแรกนั้น เป็นการบรรยายความคิดถึงบ้านเกิดและครอบครัว ดูเศร้าๆ เหงาๆ แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ คนไทยถึงกับหลุดขำ เพราะข้อความเป็นกลอน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระ พร้อมเขียนคำแปลให้ชาวต่างชาติเข้าใจด้วย ดังนี้

    “คิดถึงลูกยามใดใจไม่ส… (I felt unhappy when I missed my child)

    คิดถึงบ้านยามใดใจไม่สุข (I felt unhappy when I missed my home)

    คิดถึงลูกยามใดใจอยากกลับ (I want to go back when I missed my child)

    คิดถึงเมียยามใดไม่อยากอยู่ (I don’t want to stay when I missed my wife)

    คิดถึงhee ยามใดไปละโว้ย (I missed her p**sy, I will leave now!!!)

    สุขอะไร จะเท่าเรานั่งขี้ (Nothing is happier than taking a poop)

    สูบบุหรี่ ขี้ไป ใจสุขสันต์ (Smoking cigarette while taking a poop make me happy)

    สูบไป ขี้ไป ใจรำพัน (My heart ramble when smoking cigarette and taking a poop)

    ออกแต่ควันขี้ไม่ออก ชอกช้ำใจ (The only thing that came out is the smoke, what a shame)”

  • “เบลล่า” ร่วมงานแต่ง “แต้ว ณฐพร – ประณัย พรประภา” แห่ส่องมากับ “วิล ชวิณ”?

    เบลล่า ราณี ร่วมแสดงความยินดีในงานฉลองแต่งของ แต้ว ณฐพร-ประณัย ส่องหาหวานใจ วิล ชวิณ

    เป็นงานแต่งที่อลังการรับต้นปี 2568 เลยทีเดียวสำหรับงานวิวาห์ของนางเอกสาว แต้ว ณฐพร กับ ประณัย พรประภา นอกจากบรรยากาศในงานที่เนรมิตฮอลล์ของโรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ (เจริญกรุง) สร้างความโรแมนติกและอลังการแล้ว 

    ภายในงานยังอบอุ่นที่เต็มไปด้วยบุคคลดังจากหลากหลายวงการเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะคนวงการบันเทิงที่รวมไว้เกือบทั้งวงการเลยจริงๆ

    และหนึ่งในนั้นคือนางเอกสาว เบลล่า ราณี เพื่อนร่วมวงการและร่วมค่ายวิก 3 พระราม 4 ที่มาร่วมอวยพรด้วย โดยเธอมากับชุดเดรสสีเหลืองสดใส และงานมงคลที่อบอวลไปด้วยความรักนั้นทำเอาแฟนคลับส่องหาแฟนหนุ่มอย่าง วิล ชวิณ กันยกใหญ่เลยทีเดียว ว่าเธอเกี่ยวกับมาด้วยกันหรือไม่ 

    จากภาพเห็น เบลล่า มากับ พี่พลอย ผจก.ส่วนตัว ส่วนจะมา วิล ชวิณ เดินทางมาร่วมแจมทีหลังหรือไม่นั้น ต้องลองหาภาพดู แฟนคลับรอลุ้นเห็นภาพคู่กันยกใหญ่

  • หวยลาววันนี้ 24 มกราคม 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 24/01/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 24 มกราคม 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 24 มกราคม 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่

     

    รายงานผลหวยลาว 24 มกราคม 2568 (24/01/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 24 มกราคม 2568

    เลข 6 ตัว : 083205
    เลข 5 ตัว : 83205
    เลข 4 ตัว : 3205
    เลข 3 ตัว : 205
    เลข 2 ตัว : 05

    เลขนามสัตว์

    • 5 ສິງ สิงโต
    • 37 ລິ່ນ ตัวนิ่ม
    • 2 ຫອຍ หอย
    • 22 ນົກກາງແກ นกพิราบ


    ผลสลากพัฒนา 5/45

    32 / 07 / 42 / 34 / 44

    รายละเอียดผลหวย

     

    เงินรางวัล

    • เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    • เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    • เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ

     

  • จำลูกไม่ได้! ฝากยายเลี้ยงแค่ “สัปดาห์เดียว” แม่เทียบภาพชัดๆ เปลี่ยนไปแบบ 180 องศา

    พ่อแม่ตกใจ! ลูกสาวเปลี่ยนไปมาก หลังฝากให้คุณยายดูแลเพียง 1 สัปดาห์ ขยี้ตามองเพราะจำไม่ได้

    ในบางกรณีแม้ว่าพ่อแม่จะอยากเลี้ยงลูกเองมากแค่ไหน แต่เนื่องจากงานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยได้ จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัว โดยเฉพาะจากปู่ย่าและตายาย ในขณะเดียวกัน แน่นอนว่าวิธีการเลี้ยงเด็กย่อมแตกต่างกันออกไปตามยุคสมัย ทำให้บางครั้งพ่อแม่แม้จะเป็นฝ่ายขอพึ่งพา แต่ก็ยังอาจรู้สึกไม่พอใจหรือไม่สบายใจวิธีการดูแลลูกของผู้สูงอายุ

    ดังเช่นเรื่องราวของ คุณจาง เสี่ยวหมี่ จากประเทศจีน เนื่องจากช่วงนี้ต้องทำงานล่วงเวลาเพราะใกล้เทศกาลตรุษจีน จึงส่งลูกสาววัย 2 ขวบไปฝากให้ครอบครัวดูแลที่บ้านเกิด ตอนที่ไป ลูกสาวของเธอใส่ชุดแฟชั่นดูน่ารักเหมือนเจ้าหญิง อย่างไรก็ดี เพียงแค่ 1 สัปดาห์ต่อมา เมื่อเธอและสามีไปรับลูกสาวกลับบ้าน กลับต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้

    ลูกสาวอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สีผิวก็คล้ำลงอย่างชัดเจน และไม่ใส่เสื้อผ้าแฟชั่นเหมือนตอนที่พ่อแม่พามาส่งอีกแล้ว เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของลูกสาวที่เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาสั้นๆ เธอก็ทำได้เพียงหัวเราะออกมาเบาๆ และส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ เพราะถึงแม้รูปร่างของลูกจะเปลี่ยนไป แต่เด็กน้อยยังคงแข็งแรงดี สิ่งนี้ทำให้คู่สามีภรรยาโล่งใจอย่างมาก

    ที่จริงแล้ว การดูแลเด็กระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่ามักจะมีความแตกต่างกันมาก สำหรับพ่อแม่ที่ยุ่งกับงาน ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากคุณตาคุณยายในการดูแลลูกก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้พ่อแม่รู้สึกสบายใจมากกว่าการจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ถ้าพึ่งพาผู้สูงอายุในครอบครัวมากเกินไป และปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจในการเลี้ยงดูทั้งหมด ก็อาจจะมีผลเสียต่อพัฒนาการของเด็กในระยะยาว แล้วเหตุผลคืออะไร?

    1. คุณตาคุณยายอาจไม่มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะดูแลเด็ก การเลี้ยงเด็กเล็กเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก และอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับและการพักผ่อนของผู้ใหญ่ คนสูงอายุมีความอดทนจำกัด การเลี้ยงเด็กอาจทำให้สุขภาพของพวกท่านเสื่อมลงได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรฝากให้ดูแลเด็กในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ไม่ควรปล่อยให้ดูแลนานๆ

    2. เด็กอาจถูกตามใจจนเสียระเบียบ คุณตาคุณยายมักจะตามใจหลานๆ มาก อย่างที่หลายคนเคยมีประสบการณ์มาแล้วว่า แม้พวกท่านจะเคยเข้มงวดกับลูกๆ มากเพียงใด แต่กลับสามารถอ่อนโยนกับหลานๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พวกท่านอาจตามใจและยอมให้ขัดคำสั่งหรือกฎของพ่อแม่ ซึ่งทำให้เด็กไม่เชื่อฟังและเสียระเบียบ

    3. ปัญหาด้านโภชนาการ คุณตาคุณยายมักจะให้อาหารหลานเยอะเกินไป การศึกษาล่าสุดพบว่าเด็กๆ อาจเป็นโรคอ้วน สุขภาพช่องปากไม่ดี หรือแม้แต่เบาหวาน เพราะการกินขนมหวาน ของขบเคี้ยว และอาหารมันๆ มากเกินไป แม้พวกท่านจะต้องการให้หลานมีความสุข แต่สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้

    4. ทักษะทางสังคมไม่ดี เมื่อเด็กใช้เวลากับคุณตาคุณยายที่คอยตามใจมากเกินไป พวกเขามักจะไม่ค่อยสนใจที่จะเล่นกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้ทักษะทางสังคมไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการเรียนรู้จากโรงเรียนอนุบาลจะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการเข้าสังคมได้ดีกว่า

    สรุปแล้ว การให้เด็กพัฒนาอย่างเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจนั้น ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่างการดูแลจากคุณตาคุณยาย พ่อแม่ และคนรอบข้างในสังคม ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข เอื้อต่อการเจริญเติบโตอย่างดี