Blog

  • หวยลาววันนี้ 27 มกราคม 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 27/01/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 27 มกราคม 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 27 มกราคม 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่

    รายงานผลหวยลาว 27 มกราคม 2568 (27/01/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 27 มกราคม 2568

    เลข 6 ตัว : 938524
    เลข 5 ตัว : 38524
    เลข 4 ตัว : 8524
    เลข 3 ตัว : 524
    เลข 2 ตัว : 24

    เลขนามสัตว์

    • 33 แมงมุม
    • 30 ปลาใหญ่
    • 29 ปลาไหล
    • 12 ม้า

    ผลสลากพัฒนา 5/45

    • 05 / 06 / 12 / 02 / 37 /

    รายละเอียดผลหวย

    เงินรางวัล

    • เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    • เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    • เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ
  • ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่าอะไร คนจีนเขารู้จักคำนี้กันรึเปล่า?

    เมื่อเทศกาลตรุษจีนเวียนมาถึง เรามักจะได้ยินคำอวยพรยอดฮิตอย่าง “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ในโฆษณา การ์ดอวยพร หรือแม้แต่ในบทสนทนาทั่วไปของคนไทยเชื้อสายจีน แต่เคยสงสัยไหมว่า คำนี้แปลว่าอะไร และคนจีนในประเทศจีนเองจะเข้าใจคำนี้หรือเปล่า?

    วันนี้เราก็ได้ไปหาข้อมุลามาไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ กันแล้วว่า ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ มันแปลว่าอะไร แล้วสรุปว่า คนจีนเขาเข้าใจคำว่า ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ กันรึเปล่า?

    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่าอะไรซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่าอะไร

    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่าอะไร คนจีนเขารู้จักคำนี้กันรึเปล่า?

    คำตอบคือ คนจีนส่วนใหญ่ ไม่รู้จัก คำว่า “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” เพราะคำนี้เป็นคำอวยพรในภาษาจีนแต้จิ๋วเท่านั้น ในขณะที่คนจีนแผ่นดินใหญ่หรือที่พูดภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) จะนิยมใช้คำว่า

    • 恭喜发财 (กงสี่ ฟาไฉ): ขอให้ร่ำรวย
    • 春节快乐 (ชุนเจี๋ย ไคว่เล่อ): สุขสันต์วันตรุษจีน
    • 万事如意 (ว่านซื่อ หรูอี้): ขอให้ทุกอย่างราบรื่นสมปรารถนา

    ดังนั้น หากเราไปพูด “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” กับคนจีนในปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจที่เราพูดได้!

    ในประเทศไทย ภาษาจีนที่ใช้ส่วนใหญ่คือภาษาจีนแต้จิ๋ว เนื่องจากคนจีนแต้จิ๋วอพยพมาไทยมากที่สุด ขณะที่ภาษาจีนที่คนจีนในคลิปพูดคือภาษาจีนกลางหรือแมนดาริน แม้จะพูดต่างสำเนียงกัน แต่ความหมายยังคงเหมือนกัน ดังนั้น หากคนจีนที่ไม่ใช่คนแต้จิ๋วไม่เข้าใจคำว่า “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ก็ถือเป็นเรื่องปกติ หากต้องการอวยพรคนจีนในวันตรุษจีน ควรใช้คำในภาษาจีนกลาง เช่น

    • 恭喜发财 (กงสี่ ฟาไฉ): ขอให้ร่ำรวย
    • 春节愉快 (ชุนเจี๋ย ยวีไขว้): มีความสุขในวันตรุษจีน

    ทำไมไทยใช้ภาษาจีนแต้จิ๋ว?

    เหตุผลหลักคือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ คนแต้จิ๋วอาศัยอยู่ตอนใต้ของจีน ใกล้ไทยมาก จึงอพยพมาได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีชาวจีนกลุ่มอื่น เช่น จีนแคะ ฮกเกี้ยน และไหหลำที่ย้ายมาไทยในช่วงเวลาเดียวกันแต่ในจำนวนที่น้อยกว่า

  • แพทย์ผิวหนังม.มหิดล แนะ 8 ทริคทำให้หน้าใส ไม่ขัด ไม่มาส์ก ไม่พึ่งหมอ

    ความงามเป็นอาวุธของผู้หญิง คำกล่าวนี้คงเป็นที่รู้จักกันดี เพราะความงามเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผิวหน้าใส” ที่เปรียบเสมือนหน้าต่างบานแรกของผู้หญิง ทำให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ และมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น พญ.สุพิชชา กมลรัตนกุล (หมอเอ้) แพทย์ด้านผิวหนัง อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล เผยทริคล้างหน้าอย่างไรให้หน้าใสทำอย่างไรดี? ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Mahidol Channel โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    8 ทริคทำให้หน้าใส ไม่ขัด ไม่มาส์ก ไม่พึ่งหมอ

    1.ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น : ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพราะน้ำอุ่นทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
    2.ควรใช้น้ำเปล่าหรือใช้โฟม : ควรใช้โฟมล้างหน้า เพราะเวลาเราแต่งหน้า ฝุ่น PM ต่างๆ โฟมช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดมากขึ้น
    3.การสคลับหน้าจำเป็นหรือไม่จำเป็น: เพราะการสครับหน้าบ่อยๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ถ้าอยากจะทำอาจจะนานๆ ทำที
    4.ควรทาครีมกันแดดก่อนหรือหลังครีมบำรุง : ควรทาครีมกันแดดหลังครีมบำรุง ทาครีมบำรุงให้ซึมเข้าไปก่อนแล้วถึงทาครีมกันแดด
    5.ทากันแดด1 ครั้งหรือแนะนำให้เติมครีมกันแดดระหว่างวัน :ไม่ควรจะทาครีมกันแดดเพียงแค่ 1 ครั้ง โดยเฉพาะถ้าโดนแดดเยอะ แนะนำให้ทาทุก 2-4 ชั่วโมง
    6.กดสิว หรือทาครีมแต้มสิว : แนะนำให้ทาครีมแต้มสิวก่อนเพราะว่าการกดสิวด้วยตัวเอง ถ้าเกิดกดสิวด้วยตัวเองจะเสี่ยงเกิดหลุมสิว
    7.การมาส์กหน้ากับการทามอยส์เจอไรเซอร์: แนะนำให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ทุกวันดีกว่า มาส์กหน้าสามารถทำได้นานๆ ครั้งขึ้นกับสภาพผิวด้วย
    8.นอนเยอะ หรือนอนน้อย : การนอนเยอะทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น growth ฮอร์โมน หรือเมลาโทนินหลั่งได้ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผิวสุขภาพดี

  • รู้จัก “ทับทิม อัญรินทร์” เปิดเส้นทางรักหวานกับ “ไทด์ เอกพันธ์”

    ทับทิม อัญรินทร์ นักแสดงมากความสามารถ พร้อมเส้นทางความรักที่หวานกับ ไทด์ เอกพันธ์

    ประวัติ ทับทิม อัญรินทร์ 

    อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทับทิม เป็นนักแสดง, พิธีกร, นักร้อง, นักกีฬาสเกตลีลา และนักธุรกิจชาวไทย โดยเกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2533 ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา กรุงเทพมหานคร ทับทิม มีพี่ชาย 1 คน มารดาของเธอเป็นชาวจังหวัดระนอง

    ทับทิม มีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะในด้านการรำโนห์ราซึ่งเธอรำได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงยังเป็นนักกีฬาสเกตลีลาอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นจิตอาสากับมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัส “ดารา77” โดยร่วมงานจิตอาสากับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ 

    ด้านการศึกษา

    • เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลทองฤทัย
    • สำเร็จการศึกษาระดับประถมและมัธยม (English Program) จากโรงเรียนอุดมศึกษา
    • จบปริญญาตรีในสาขาภาษาอังกฤษจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    • จบปริญญาตรีอีกใบในสาขาบริหารธุรกิจจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) โดยได้รับทุนการศึกษาในโครงการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
    • สำเร็จการศึกษาปริญญาโทในสาขารัฐศาสตร์จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    • จบปริญญาเอกในสาขาการจัดการ (Doctor of Philosophy in Management) จากคณะบริหารธุรกิจและการจัดการ Lyceum of the Philippines University ประเทศฟิลิปปินส์

    เส้นทางในวงการบันเทิง

    ทับทิมเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงจากการถ่ายแบบ, ถ่ายโฆษณา, มิวสิกวีดีโอ และการประกวด ซึ่งเธอได้รับตำแหน่ง Cleo Star Popular Vote 2007 และรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวด Utaitip Freshy Idol 2008

    ในปี 2552 ทับทิมได้เซ็นสัญญากับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และมีผลงานละครเรื่องแรก “รักแท้แก้ได้” คู่กับ อ๊อฟ ชนะพล สัตยา หลังจากนั้นก็มีผลงานละครหลายเรื่อง เช่น “ธิดาวานร 2” คู่กับ เขตต์ ฐานทัพ และ “ตะวันยอแสง” รวมถึงซิทคอม “กำนันอี๊ด” เป็นต้น

    ในปี 2553 ทับทิมได้รับบทนางเอกครั้งแรกในละคร “คุณชายตำระเบิด” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ต่อมาในปี 2555 เธอได้พลิกบทบาทมารับบทบาทตัวร้ายครั้งแรกใน “อสูรน้อยดารกา” จาก “อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว” และในปี 2556 เธอได้รับบทบาทประชันกับนางเอกรุ่นพี่ในละครเรื่อง “อาญารัก” ซึ่งได้รับการชื่นชมจากแฟนๆ มากมาย

    ในปี 2558 ทับทิมได้แสดงในละครหลังข่าวเรื่องแรก “ลีลาวดีเพลิง” และตามมาด้วย “เจ้านาง” และ “ริษยา” ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

    ในปี 2565 ทับทิมได้แสดงละครเรื่องสุดท้ายกับทางช่อง 7 คือ “เสาร์ ๕” ก่อนตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระในปี 2566 และได้ประเดิมบทบาทในซีรีส์ “คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์” ตอน “สะใภ้จีน” ซึ่งได้รับกระแสชื่นชมและเรตติ้งที่สูง

    เรื่องราวความรัก ต้องบอกว่าเป็นที่ฮือฮามากๆ  ทับทิม ได้เปิดตัวคบกับ ไทด์ เอกพันธ์ นักแสดงรุ่นใหญ๋และดาราจิตอาสาคนดังของวงการ ซึ่งเส้นทางรักของทั้งสองเริ่มต้นจากการทำงานร่วมกัน ทั้งถ่ายรายการ เล่นละคร ซึ่ง ไทด์ เอกพันธ์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเล่นบทพ่อของทับทิมตลอด ตอนนั้นก็รู้สึกว่าน้องเขาน่ารัก จากความสนิทกันเรื่อยมา ก่อนจะพัฒนาเป็นความรักที่หวานซึ้งต่อกัน ต้องบอกว่าเป็นรักต่างวัยที่ฮือฮามากๆ ทับทิม ห่างจาก ไทด์ เอกพันธ์ 28 ปี

    แต่ต้องบอกว่าช่วงว่างระหว่างวัยไม่ใช่อุปสรรค เพราะทั้งสองคนยังเล่นมุ้งมิ้งเต้น TikTok ด้วยกันอยู่ตลอดเวลา 

  • หย่ากันได้ 1 ปี อยู่ๆ อดีตสามีส่งพัสดุมาให้ “แม่เลี้ยงเดี่ยว” เปิดดู น้ำตาไหลพราก

    หย่ากันมาได้ 1 ปี แม่เลี่ยงเดี่ยวสุดงง อยู่ ๆ อดีตสามีก็ส่งของแปลก ๆ มาให้ ผ่านไป 3 วัน พอเปิดดู น้ำตาก็ไหลพรากทันที

    “1 ปีที่แล้ว ฉันกับอดีตสามีหย่ากัน ทั้งสองต่างเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นสาเหตุของปัญหาทั้งหมด และคิดว่าชีวิตส่วนตัวจะดีขึ้น แต่ 3 วันก่อน เขาก็ส่งพัสดุมาให้ฉัน ฉันทิ้งมันไว้ใต้โต๊ะโดยไม่คิดจะเปิดดู จนวันที่สาม ฉันจึงเปิดมันออกและรู้ว่ามีบางสิ่งที่เราทั้งคู่ทำผิดไป”

    นี่คือเรื่องราวที่คุณหลี่ แม่เลี้ยงเดี่ยวชาวจีน ที่ได้โพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เรื่องราวนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว จุดกระแสถกเถียงเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูก และความหมายที่แท้จริงของครอบครัว

    หลังจากหย่ากับสามี คุณหลี่ได้อยู่กับลูกชายวัย 8 ปี แม้ว่าชีวิตจะยุ่งเหยิง แต่เธอพยายามดูแลลูกให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องการเรียนและกิจวัตรประจำวัน พร้อมกับบอกตัวเองว่าจะเป็น “แม่เลี้ยงเดี่ยว” ที่ดี แต่ในใจเธอยังคงเก็บความโกรธเคืองอดีตสามี และเชื่อว่าเขาคือสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวล่มสลาย

    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้รับพัสดุจากอดีตสามี ซึ่งข้างในไม่มีข้อความใด ๆ เธอทิ้งมันไว้ใต้โต๊ะ เพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ส่งอะไรที่มีค่า

    3 วันต่อมา ขณะทำความสะอาดบ้าน คุณหลี่เปิดพัสดุออก ภายในมีแผ่นกระดาษหนา ๆ สมุดบันทึกหลายเล่ม และจดหมาย 1 ฉบับ ในจดหมายอดีตสามีของเธอเขียนว่า “นี่คือสิ่งที่เขาบันทึกไว้ตลอดปีที่ผ่านมา เป็นความทรงจำระหว่างเขากับลูก เขาหวังว่าเธอจะอ่านมันอย่างละเอียดเพื่อเข้าใจว่าลูกต้องการอะไร”

    คุณหลี่เปิดอ่าน และพบว่าภายในมีบันทึกการสนทนาของอดีตสามีกับลูก บางภาพวาดที่ลูกชายวาด และรายการสิ่งที่ลูกต้องการ โดยเฉพาะจดหมายหนึ่งที่ลูกชายเขียนลับ ๆ ว่า “หนูอยากให้พ่อแม่ไม่ทะเลาะกันอีก” คำเหล่านั้นเหมือนมีดแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ น้ำตาของเธอหลั่งไหลไม่หยุด

    คุณหลี่เล่าว่าสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดคือข้อความในภาพวาดของลูกชายที่เขียนว่า “หนูอยากให้พ่อแม่ยิ้มและทานข้าวด้วยกัน”

    เธอเพิ่งตระหนักว่าผลจากการทะเลาะกันระหว่างเธอกับอดีตสามี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่สุดคือบุตรชายของพวกเขา หลังจากหย่ากัน เธอคิดว่าการดูแลลูกอย่างเต็มที่จะช่วยทดแทน แต่แท้จริงแล้วเธอลืมไปว่าลูกต้องการความรักและความสัมพันธ์ที่อบอุ่นจากทั้งสองฝ่าย

    นักจิตวิทยา กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อพัฒนาการของเด็ก แม้ว่าแม่และพ่อจะหย่ากัน เด็กยังคงปรารถนาครอบครัวที่อบอุ่น ที่ซึ่งพวกเขารู้สึกถึงความรักและความมั่นคง

    เรื่องราวของคุณหลี่ได้จุดกระแสถกเถียงมากมาย หลายคนรู้สึกเห็นใจและแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายกัน ขณะเดียวกันบางคนก็เริ่มมองย้อนกลับไปถึงข้อผิดพลาดในการเลี้ยงดูลูกของตัวเอง

    การเลี้ยงดูลูกไม่เพียงแค่การตอบสนองความต้องการทางวัตถุ หรือแค่การเลี้ยงให้โต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าใจอารมณ์และความต้องการลึก ๆ ของลูก พร้อมสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่แน่นแฟ้นกับลูก

    การหย่ากันไม่ได้หมายความว่าความเป็นครอบครัวจะจบลง พ่อแม่ยังคงเป็นเสาหลักทางอารมณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก หากพ่อแม่ไม่สามารถสื่อสารและร่วมมือกันได้ เด็กจะเติบโตขึ้นด้วยความรู้สึกไม่มั่นคงและขาดแคลนความรัก ซึ่งอาจนำไปสู่บาดแผลที่ติดตัวไปจนโต

  • หมอคอนเฟิร์ม “ช่วยตัวเอง” ก่อนนอน มีประโยชน์กว่าที่คิด ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    ข้อดีของการช่วยตัวเอง (Masturbation) ก่อนนอน ช่วยให้หลับสบายจริงไหม?

    การช่วยตัวเอง (masturbation) เป็นพฤติกรรมทางเพศที่ธรรมชาติและเกิดขึ้นในทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับประโยชน์ของการช่วยตัวเองต่อคุณภาพการนอน บทความนี้จะเจาะลึกถึงประโยชน์ของการช่วยตัวเองก่อนนอน พร้อมอ้างอิงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อควรระวังในการช่วยตัวเองด้วย

    ประโยชน์ของการช่วยตัวเองก่อนนอน

    1. ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด

    การช่วยตัวเองสามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น เอ็นดอร์ฟิน (endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกดี การช่วยตัวเองทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็วหลังการถึงจุดสุดยอด (orgasm) ซึ่งเป็นประโยชน์ในการช่วยให้หลับง่ายขึ้น

    2. ส่งเสริมการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยการนอนหลับ

    หลังจากการช่วยตัวเองและการถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น:

    • ออกซิโทซิน (oxytocin): ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับการปรับปรุงคุณภาพการนอน
    • โปรแลคติน (prolactin): ฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกง่วงนอนทันทีหลังจากถึงจุดสุดยอด

    งานวิจัยจากสถาบันการแพทย์ Rutgers University พบว่าการถึงจุดสุดยอดช่วยกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของสมองที่ช่วยลดความตื่นตัว และเพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ

    3. ปรับปรุงคุณภาพการนอน

    จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Sleep Research (2019) พบว่าผู้ที่ช่วยตัวเองก่อนนอนมีแนวโน้มที่จะหลับลึกและยาวนานกว่าคนทั่วไป เนื่องจากร่างกายอยู่ในสภาวะผ่อนคลายเต็มที่หลังจากการถึงจุดสุดยอด

    ความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง

    การช่วยตัวเองมีผลดีต่อการนอนในทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เนื่องจากระบบทางเพศของทั้งสองเพศมีความแตกต่างกัน รายละเอียดบางประการจึงไม่เหมือนกัน:

    • ผู้ชาย: การหลั่งน้ำอสุจิหลังจากถึงจุดสุดยอดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินออกมาในปริมาณมาก ทำให้รู้สึกง่วงและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
    • ผู้หญิง: การกระตุ้นจุดสุดยอดในผู้หญิงไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตัวและส่งผลดีต่อการนอนหลับ

    ข้อควรระวังในการช่วยตัวเอง

    แม้ว่าการช่วยตัวเองจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึง:

    1. ความถี่ในการช่วยตัวเอง

    การช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพหากทำในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การทำบ่อยเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าหรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับคู่ครอง คำแนะนำจากแพทย์คือควรปรับสมดุลระหว่างการช่วยตัวเองและการทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจ

    2. พฤติกรรมที่อาจกลายเป็นนิสัย

    การพึ่งพาการช่วยตัวเองเพื่อการนอนหลับในทุกคืนอาจทำให้กลายเป็นนิสัย และส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว คำแนะนำคือการใช้วิธีนี้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการช่วยผ่อนคลาย และไม่ควรทำอย่างต่อเนื่องในกรณีที่เกิดปัญหาการนอนเรื้อรัง

    3. ความเสี่ยงทางร่างกาย

    แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่การช่วยตัวเองที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยได้ เช่น การระคายเคืองหรือแผลที่อวัยวะเพศ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ใช้สารหล่อลื่นอย่างเหมาะสม ควรระมัดระวังและรักษาความสะอาดทุกครั้ง

    คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าการช่วยตัวเองเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ควรทำด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรทำเกินความจำเป็น หากมีปัญหาด้านการนอนเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

    การช่วยตัวเองก่อนนอน สามารถช่วยให้หลับง่ายขึ้นและส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับได้ เนื่องจากการปล่อยสารเคมีที่ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการทำและไม่ควรทำจนเกินความจำเป็น การรักษาสมดุลในการช่วยตัวเองและการดูแลสุขภาพโดยรวมคือกุญแจสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดี

  • โมเมนต์น่ารัก “แต้ว-ประณัย” ซีนส่งตัวเข้าหอในโหมดสามีภรรยาป้ายแดง

    แต้ว ณฐพร – ประณัย พรประภา โมเมนต์อบอุ่นพิธีส่งตัวเข้าห้อ คุณแม่อวยพรชีวิตคู่ และภาพในลุคชิลๆ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หลายคนแห่แซว

    งานวิวาห์ที่ทุกคนรอคอยของนางเอกสาวชื่อดัง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ ประณัย พรประภา นักธุรกิจทายาทหมื่นล้านสยามกลการ ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการจดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย และถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ สะใภ้หมื่นล้าน ของบ้านพรประภา

    ต้องบอกว่าเป็นงานฉลองวิวาห์ที่รวมตัวเพื่อนพ้องพี่น้องในวงการบันเทิงไว้มากที่สุดอีกหนึ่งงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความบันเทิงจากเพื่อนๆ ในวงการ ที่ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว

    และหนึ่งในโมเมนต์ที่น่ารักและอบอุ่นที่สุดในวันั้น คือภาพของเจ้าบ่าว ประณัย และเจ้าสาว แต้ว ณฐพร พิธีส่งตัวเข้าหอที่มีคุณแม่ของทั้งสองคนอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความรักและความสุข 

    นอกจากนี้ยังได้เห็นอีกหนึ่งโมเมนต์สุดชิลหลังพิธีส่งตัวเสร็จเรียบร้อย แต้ว ณฐพร อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ โดยมีสามีป้ายแดงโอบกอดอยู่ข้างๆ ต้องบอกว่าเป็นภาพที่น่ารักมากๆ 

    เพื่อนๆ หลายคนเห็นแล้วต่างแซวกันยกใหญ่เลยทีเดียว วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในชีวิตของทั้งสองคน

  • วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วัน เริ่มตั้งแต่ 25-31 ม.ค. 68

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตลอด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68

    ตามที่นายกฯ มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม และส่วนราชการอื่นๆ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพฯ ว่าตั้งแต่วันที 25-31 ม.ค. 68 จะให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าฟรีทุกสาย รวมถึงรถขนส่ง ขสมก.ฟรี โดยให้ประสานไปยังผู้ประกอบการทั้งกลุ่มบีทีเอส และ BEM ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดังกล่าว ซึ่งส่วนที่ต้องชดเชย 7 วันนี้ จะคำนวณตามรายได้ที่ได้รับเท่ากับ 7 วันที่ผ่านมา โดยงบประมาณที่จะนำมาชดเชยจะนำมาจากงบฯกลางประมาณ 140 ล้านบาท หลังจากนี้ จะนำข้อเสนอนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีต่อไป

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ตลอด 7 วัน เริ่มตั้งแต่ 25-31 ม.ค. 68 ของแต่ละสายมีดังนี้

    รถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว-สายสีทอง)

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วันวิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วัน

    รถไฟฟ้า BTS แจ้งว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) และรถไฟฟ้าสายสีทอง ให้บริการฟรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 เวลา 06.00–00.00 น.

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสาร ได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ และห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีของผู้ใช้บัตรแรบบิท

    อัปเดตล่าสุด เจ้าหน้าที่ BTS แจกบัตรโดยสารเที่ยวเดียวที่หน้าสถานี ทำให้มีความคล่องตัวในการรับบัตร 

    • บัตรแรบบิท แบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลยระบบจะไม่หักเงิน และเที่ยวเดินทาง
    • บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทาง (Xtreme Savings) รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ และห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทาง ต้องการเดินทางเชื่อมต่อสายสีชมพู (สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ) รับบัตรโดยสารที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ

    หมายเหตุ : รถไฟฟ้าสายสีเขียว ครอบคลุม สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) สายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท) และส่วนต่อขยาย

    ขยายเวลาหมดอายุ เที่ยวเดินทาง BTS สำหรับผู้ที่ซื้อแพ็กเกจ

    ผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่ซื้อแพ็กเกจเที่ยวเดินทาง จะได้รับขยายระยะเวลาการใช้คูปองเที่ยวเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

    • แพ็กเกจเที่ยวเดินทาง ตั้งแต่ 15 เที่ยว หรือมีอายุ 30 วันขึ้นไป ก่อนวันที่ 25 ม.ค. 2568 ขยายระยะเวลาการใช้คูปองเที่ยวเดินทางถึง 28 ก.พ. 2568
    • แพ็กเกจเที่ยวเดินทาง 10 เที่ยวต่อ 7 วัน ขยายระยะเวลาการใช้งานคูปองถึง 13 ก.พ. 2568

    ขยายเวลาหมดอายุ เที่ยวเดินทาง BTS

    รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรีวิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรี

    รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง แจ้งให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68 โดยมีเงื่อนไขดังนี้

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรี

    • ผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสาร MRT ทุกประเภท หรือบัตรเครดิต/เดบิต สามารถแตะเพื่อเดินทางได้ตามปกติ โดยไม่คิดค่าโดยสาร
    • ผู้โดยสารที่ไม่มีบัตรโดยสาร สามารถรับเหรียญโดยสารได้ที่ห้องออกบัตร, เครื่องออกเหรียญอัตโนมัติ หรือจุดให้บริการในสถานี โดยไม่คิดค่าโดยสาร

    รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง

    รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง ระบุว่า ให้บริการฟรีตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 06.00 – 00.00 น. ในระหว่างวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง 

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสารฟรี ได้ที่ ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือรับได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ผู้ใช้งานบัตรแรบบิท มีดังนี้

    • บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลย ระบบจะไม่หักเงิน
    • บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทาง รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี (กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ)

    รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพูวิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพู

    รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีชมพู แจ้งให้บริการฟรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 06.00 – 00.00 น. ในระหว่างวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพู

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสาร ฟรี! ได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือรับได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีผู้ใช้บัตรแรบบิท มีดังนี้

    • บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลย โดยระบบจะไม่หักเงิน
    • บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทาง ต้องการเดินทางเชื่อมต่อสายสีเขียว (สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ) รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสาร หรือห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี (กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ)

    รถไฟฟ้าสายสีแดง

    วิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงวิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

    เปิดให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงฟรี ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.-31 ม.ค. 68 รวมระยะเวลา 7 วัน เพื่อให้ประชาชนลดการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และมุ่งหวังให้ปัญหาดังกล่าวกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

    วิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

    • ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 05.00 น.-เที่ยงคืน ของวันที่ 25-31 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
    • ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับเหรียญโดยสารได้ที่เจ้าหน้าที่บริเวณห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • ผู้ที่ใช้บัตรโดยสารประเภทบุคคลทั่วไป, ประเภทนักเรียน นักศึกษา และประเภทผู้สูงอายุ สามารถแตะบัตรเข้า – ออก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน

    รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (AERA 1 CITY LINE)

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 

    ผู้โดยสารนั่งรถไฟฟ้าฟรี เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มกราคม 2568 โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อพนักงานสถานี รับเหรียญโดยสารนั่งรถไฟฟ้าฟรี ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารในทุกสถานี

     

  • เงินดิจิทัลเฟส 2 โอน 10,000 บาท เข้าบัญชีกี่โมง ถ้ายังไม่ได้ต้องทำอย่างไรต่อไป

    เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์กี่โมง ถ้ายังไม่ได้ต้องทำอย่างไร

    วันนี้ (27 ม.ค. 68) เป็นวันโอนเงินดิจิทัลเฟส 2 วงเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 2 ตามที่รัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไข และคุณสมบัติไว้ ซึ่งคนที่ผ่านเกณฑ์ระบบในแอปฯ ทางรัฐจะแจ้งว่า “ยินดีด้วย คุณได้รับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ กรุณาตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกกับพร้อมเพย์ให้สามารถใช้งานได้ และรอรับการโอนเงิน ในวันที่ 27 มกราคม 2568”

    เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีกี่โมง

    • เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงินเข้าบัญชีล็อตแรกตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 27 ม.ค. 68 เป็นต้นไป โดยจะโอนเงิน 10,000 บาท เป็นก้อนเดียว และทุกคนจะได้รับเงินทั้งหมดภายในวันเดียว เข้าบัญชีธนาคารที่ผูกกับพร้อมเพย์บัตรประชาชน

    ถ้าผ่านเกณฑ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท ต้องทำอย่างไร

    • ถ้าผ่านคุณสมบัติเงินดิจิทัลเฟส 2 แต่ไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นเพราะยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน วิธีแก้ คือ ต้องติดต่อกับธนาคารเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้

    ถ้าไม่ได้รับสิทธิ์ มีวิธียื่นอุทธรณ์ไหม

    • ยื่นอุทธรณ์ได้ โดยสามารถโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

    ถ้าไม่ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 2 ภายในวันที่ 27 ม.ค. 68 มีวันอื่นอีกไหม?

    • คนที่ยังไม่ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 2 ภายในวันที่ 27 ม.ค. 68 สามารถรอรับเงินโอนใหม่ได้อีก 3 ครั้ง ดังนี้
      • วันที่ 28 ก.พ. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ภายในวันที่ 25 ก.พ. 68
      • วันที่ 28 มี.ค. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนภายในวันที่ 25 มี.ค. 68
      • วันที่ 28 เม.ย. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ภายในวันที่ 23 เม.ย. 68

    อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินดิจิทัลเฟส 2

  • 4 สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมเร็วกว่าปกติ

    แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์สตาร์ทติด หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการบำรุงรักษา บทความนี้ Sanook Auto จะมาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

    4 สาเหตุทำแบตเสื่อมเร็วกว่าปกติ

    1. การใช้งานที่ไม่เหมาะสม – การเปิดไฟหน้า วิทยุ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ทิ้งไว้ขณะที่รถยนต์ดับ จะทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมด และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และหากจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน จะทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติได้เช่นกัน

    2. ใช้งานรถสั้นเกินไป – การสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยครั้งโดยไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานนานพอ จะทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จไฟอย่างเต็มที่ ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้นเช่นกัน

    3. ไดชาร์จทำงานผิดปกติ – ไดชาร์จมีหน้าที่ชาร์จไฟให้แบตเตอรี่ หากไดชาร์จทำงานผิดปกติ มีการสร้างประจุไฟน้อยหรือมากเกินไป อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

    4. ติดตั้งอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก – เช่น ระบบเครื่องเสียง ไฟส่องสว่าง ฯลฯ ส่งผลให้แบตเตอรี่ถูกใช้งานมากกว่าปกติ และทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

    วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์

    • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น – สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ และเติมน้ำกลั่นให้ถึงระดับที่กำหนด
    • ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ – ขั้วแบตเตอรี่ที่สกปรกหรือมีคราบเขียวจะทำให้การเชื่อมต่อไฟฟ้าไม่ดี ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ
    • เปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อถึงอายุการใช้งาน – เมื่อแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนาน ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

    การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราหมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาตามคำแนะนำของผู้ผลิตนั่นเอง